Posts

คุณไม่จำเป็นต้องหา Passion ให้เจอ เพราะ Passion เกิดขึ้นภายหลัง

“Follow your Passion”

พี่เมริเห็นด้วยกับคำพูดนี้นะคะแต่…จะมีซักกี่คนที่รู้ว่า ฉันรักอะไรฉันมี Passion ในเรื่องไหน ?ถ้าคุณบอกตัวเองได้ นั่นเป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะแต่ใช่ว่า คนส่วนใหญ่จะหาสิ่งนั้นเจอ และใช่ว่า เราเพียงทำสิ่งที่เรารัก “เราก็จะประสบความสำเร็จ” บางอย่างอาจจะเป็นไปได้ค่ะแต่สำหรับหลายคน กลับทำสิ่งที่รัก แล้วเจ๊งบางครั้งถึงขั้นเกลียดไปเลยก็มี ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

เราเคยเห็นคนที่เปิดร้านกาแฟ ร้านอาหารเพียงเพราะตัวเองชอบดื่มกาแฟ รักในการทำอาหารบ้างมั๊ยคะจริงค่ะ มีคนที่ทำเพราะ Passion แล้วรอดแต่นั่นมีกี่%

พอเราได้ลองกลับไปค้นดูลึกๆอ่านหนังสือมากๆ ได้คลุกคลีกับคนที่ประสบความสำเร็จได้เอาสิ่งใหม่ๆ เข้าไปในหัวพี่เมริ กลับได้เจอแนวคิดใหม่ค่ะ

“คุณไม่จำเป็นต้องหา Passion ให้เจอ”เพราะ Passion จะเกิดขึ้นภายหลังจากการที่ คุณลงมือทำ คุณฝึกฝน จนเชี่ยวชาญแล้วส่ิงเหล่านั้นแหละ จะทำให้คุณรู้สึกดีรู้สึกรัก รู้สึกมีแรงผลักดัน และอยากจะทำมันอีกจนกลายเป็น Passion ของคุณ”

ฮ๊ะ อะไรนะ ?ได้ยินครั้งแรก พี่เมริเอง ก็รู้สึกว่ามันย้อนแย้งกับความเชื่อเก่าๆ ของตัวเองอยู่เหมือนกันแต่พอมานั่งสังเกตตัวเองแล้วก็จริงด้วยพี่เมริไม่เคยทำการตลาดออนไลน์มาก่อนเพราะหลังจากที่เรียนจบการตลาดมาก็อยู่กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวไร่ ชวนสวนหรืออยู่กับต้นไม้ ดอกไม้เป็นส่วนใหญ่แต่เมื่อโลกมันเปลี่ยนไป และเทรนท์ Onlione เริ่มมาเราก็จะเป็นต้องเรียนรู้ ศึกษา พัฒนาฝึกมาเรื่อยๆ จนเราเริ่มทำได้ดีขึ้น แล้วก็อยากเรียนรู้เพิ่มเรื่อยๆ

ตัดต่อวีดีโอ ก็เริ่มจากทำไม่เป็นเหมือนกันแต่เห็นมีคนบอกว่ามันก็ไม่ได้อยากนะมันมีเครื่องมือที่ง่ายๆ อย่าง KineMasterพอลองเรียนรู้ ลงมือทำ มันสนุกกลับเป็นว่า ถ้ามีใครมาถาม เราอยากสอน อยากอธิบายให้ฟัง อยากให้เขาใช้เป็นมันกลายเป็น Passion ไปเอง

เพื่อนพี่เมริ เป็นคนขี้อาย เก็บตัวบางคนเรียกคนกลุ่มนี้ว่าเป็นพวก Introvertแรกๆ เริ่มต้นขายของ Online ก็ทำแอบๆลองถ่ายรูปเอง จัดแสง หาอุปกรณ์หาเพิ่มหลังๆ ชักสนุก ไปหาเรียนเพิ่ม ตอนนี้ไม่ได้แค่ถ่ายรูปสินค้าตัวเองรับจ้างถ่ายงานให้คนอื่นๆ ด้วยกลายเป็น Passion และสร้างรายได้โดยไม่ได้เริ่มจากการหา Passion ก่อน

ถ้าคุณยังไม่เจอ Passion ของตัวเอง พี่เมริอยากจะบอกว่า มันไม่แปลกเลยค่ะเพราะคนส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้นถ้าวันนี้คุณหายังพรสวรรค์ของตัวเองไม่เจอก็ไม่ต้องกังวลว่า แล้วฉันจะทำอะไรได้ดีแล้วฉันจะเอาไปสร้างรายได้ แล้วฉันจะเอาอะไรไปสู้คนอื่น

คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มจาก Passion นะคะ ขอแค่มีบางอย่างที่คุณเริ่มต้นจากความสนใจหรือคุณตั้งใจอยากจะทำ อยากเป็น หรือคิดอยากจะลองซักตั้งหลังจากนั้น ลงมือทำ เรียนรู้ ฝึกฝนพัฒนาไปเรื่อยๆ คุณจะเก่งขึ้น เชี่ยวชาญขึ้นคุณจะสนุกและมีความสุข และมันอาจจะกลายเป็นรายได้ เป็นอาชีพ โดยที่คุณได้ทำสิ่งที่รักและมีรายได้ไปพร้อมกัน.

แต่ในทางตรงข้ามต่อให้คุณลองทำแล้ว และปรับปรุง หาหนทางใหม่ๆแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางของเราก็ไม่ต้องเสียใจค่ะเพราะถ้าคุณมัวแต่นั่งคิด นั่งมโน โดยไม่ลงมือทำคุณจะไม่มีวันรู้คำตอบนั้นเลย

ความลับบางของคุณที่ประสบความสำเร็จคือเขาลงมือทำ ในสิ่งที่เขาไม่ถนัดแต่สิ่งนั้นมันจะช่วยทำให้เขาเติบโตหรือเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้กับเขาเขาก็พร้อมที่จะลงมือทำค่ะ

ดังนั้น ไม่ต้องรอให้เจอ Passion ไม่ต้องรอให้ถนัดก่อนไม่ต้องรอให้เก่งก่อนไม่ต้องรอให้รวยก่อนคุณเริ่มทำได้เลย แล้วเดี๋ยวหนทาง Passion ก็จะตามมาเองค่ะ

-พี่เมริ-การตลาดเข้าใจง่าย

ถ้าใช่ ช่วยแชร์หรือส่งคอมเม้นท์ให้ด้วยนะคะ#Passion

จริงๆ คุณอาจจะเป็นอินทรีย์ที่บินได้สูงและไกล เพียงแค่มีกรงบางอย่างขังคุณไว้แค่นั้นเอง
ใครเป็นอย่างนี้อ่านด่วน

ใครรู้สึกอย่างนี้อ่านด่วน!!!
โอ๊ย พวกสอนออนไลน์สุดท้ายก็ขายคอร์ส
ฮั่นแน่ ออกมาไลฟ์สุดท้ายก็ขายของ
ทำเป็นมาแจกฟรี ของดีใครเขาจะแจกกัน
อย่าไปเชื่อคนพวกนี้ ใบปริญญาก็ไม่มี
ขี้โม้ เหม็นขี้ฟัน อย่าไปฟังเลย เสียเวลา
อายุน้อย หน้ายังละอ่อนอยู่เลยจะมาสอนคนอื่น
…………………………………………………………………………..

คุณเคยรู้สึกอย่างนี้กับคนที่เขาออกมาให้ความรู้
ให้คุณค่าหน้าเพจมั้ยคะ
ไม่ว่าจะเป็นความรู้ อย่างเรื่องการเงิน การขาย การตลาด
หรือแม้แต่ความรู้เรื่องทั่วไป อย่างลดน้ำหนัก ดูแลผิวหน้า
สอนทอดไข่เจียว พับเหรียญ ห่อของขวัญ
…………………………………………………………………………..

ถ้าคุณกำลังเป็นอย่างนั้น
คุณอาจจะมีบางอย่างที่คุณยังไม่เข้าใจค่ะ
สิ่งที่คุณควรได้รู้เพิ่มคือ…..
การให้ความรู้ หรือ คุณค่าหน้าเพจ ไม่ใช่ต้องจบด้วยการขายเสมอไป
เพราะสิ่งที่คนสอน หรือ คนให้ จะได้ไป
นอกจากความสุขที่ได้แบ่งปันแล้ว
เขายังได้ทวนความรู้ และตกผลึกความคิด นั่นคือเขาก็เก่งขึ้นด้วย
มันได้ประโยชน์ด้วยกันทั้ง2ฝ่าย win-win
…………………………………………………………………………..

การออกมาไล์ฟมันไม่ใช่แค่เรื่องของการขายของ
หรือปิดจอง แจกโปรเท่านั้น แต่มันคือการคอนเนค
กับผู้คน การได้เชื่อมโยงความรู้สึก เพราะได้โต้ตอบกัน2ทาง
ได้เห็นอารมณ์ ความรู้สึก ภาษากายของคนที่ออกมาไลฟ์
จะต่อกันติดก็จะง่ายขึ้น หรือให้ความรู้สึกใกล้ชิดมากขึ้น
…………………………………………………………………………..

ของฟรีไม่มีในโลกจริงค่ะ
เพราะมันต้องแลกด้วยค่าเสียโอกาสการได้ทำอย่างใด อย่างนึง
แต่ของฟรี ไม่ได้ต้องห่วยเสมอไป
บางครั้งยิ่งของฟรี ของตัวอย่าง ยิ่งต้องมากๆ
เพราะมันอาจจะหมายถึงโอกาสเพียงครั้งเดียว
ที่คุณจะช่วยให้เขาเปลี่ยนใจมาเป็นว่าที่ลูกค้า
หรือมาทดลอง เพราะคู่แข่งหรือตัวเลือกอีกมีอีกเพียบ
ใครที่คิดว่า คอร์สฟรี ของฟรี ไม่ดี แล้วไม่เปิดใจ
คุณอาจจะพลาดประสบการณ์หรือมุมองใหม่ๆได้นะคะ
ความจริง เขามีของฟรีมาให้ลอง มาให้ทดสอบ
นั่นนับว่าเป็นเรื่องดี ที่เรายังไม่ต้องรีบควักเงินออกไป ได้ข้อมูลมาตัดสินใจก่อน
(แต่ไม่ได้หมายถึงต้องตระครุบทุกอันนะคะ แค่อยากบอกว่า ไอ้ของฟรีดีๆ มันก็มีอยู่ไม่น้อย)
…………………………………………………………………………..

ใบปริญญาไม่มี ใบเซอร์ไม่เห็น จะเชื่อได้เหรอ
จริงๆแล้ว อันนี้แล้วแต่เรื่องราว แล้วแต่สถานการณ์นะคะ
บางคนประสบการณ์ดีมากเพราะลงมือทำจริง
แม้เขาไม่มีปริญญา ใบเซอร์ มันก็ชัดเจน
อย่างคุณเห็นคนขาดขา ขาลีบเป็นโปลิโอ
แบบเห็นได้ชัด
คุณยังต้องการตรวจบัตรคนพิการมั้ยคะว่าเขาพิการจริงมั้ย
(อันนี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องการได้สิทธิ์รักษานะคะ)
…………………………………………………………………………..

หรือแม้แต่บางคน เขาอาจจะไม่ใช่คนที่สำเร็จเอง
แต่เขาคือผู้เรียบเรียง ผู้วิเคราะห์
เพราะเขามีโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลมากกว่าคนอื่น
เขามีความพยายามในการรวบรวมหรือเก็บสถิติ
เขามีความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูล
เขาก็สามารถแบ่งปันได้ค่ะ
อย่างนโปเลียน ฮิลล์ ตอนที่แต่ง Think and grow rich
ที่ได้ความช่วยเหลือจากคอนเนคชั่นของ แอนดูรว์ คาร์เนกี้
ตอนนั้นเอง นโปเลียน ก็ไม่ได้รวยระดับโลกนะคะ
แต่เขาเข้าถึงข้อมูลและประสบการณ์ที่คนรวยและคนสำเร็จค่ะ
เขามีข้อมูลและทักษะในการถ่ายทอด นั่นก็ทำได้
(หนังสือเล่มนี้ไม่ธรรมดานะคะ เพราะใช้การเก็บข้อมูลกว่า 30 ปี เรียกว่า นโปเลียน ฮิลล์ นี่สุดจริงๆค่ะ)
ซึ่งเราอาจจะไม่ต้องถึงขั้นนโปเลียน ฮิลล์ก็ได้ค่ะ เพราะทุกวันนี้
ความก้าวหน้า และการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ มันเร็วขึ้นกว่าในอดีต

…………………………………………………………………………..

ขี้โม้ เหม็นขี้ฟัน อย่าไปฟังเลย เสียเวลา
อายุน้อย หน้ายังละอ่อนอยู่เลยจะมาสอนคนอื่น
อันนี้เป็นเรื่องของทัศนคติ ห้ามกันไม่ได้ค่ะ
สิ่งที่คุณเสพ สิ่งที่คุณเปิดรับ
มันจะทำให้คุณได้สิ่งที่เอาไปประมวลผลใหม่ๆ
และมีผลต่อแนวคิด การกระทำ
และผลลัพธ์ใหม่ๆในชีวิตด้วยค่ะ
คุณจะเป็นผลสะท้อนของสิ่งที่คุณเสพ สิ่งที่คุณเชื่อ
…………………………………………………………………………..

ไม่ได้บอกว่ามันผิดนะคะ
แต่อยากให้เห็นอีกมุม
เพราะหลายคนมักจะมองว่า
การออกมาทำแบบนี้ เป็นการตลาดที่หลอกลวง
สุดท้ายก็ขายของอยู่ดี
จริงๆการขายของ ก็คือ การช่วยคน
ทุกวันนี้ที่เราดีขึ้นกว่าเมื่อหลายปีก่อน
เพราะสิ่งของ และ บริการ
ที่ทำมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เรามีนี่แหละค่ะ
…………………………………………………………………………..

ไม่แน่ว่า บางที สิ่งที่คุณติดอยู่ในตอนนี้
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องของความรู้ เรื่องของเงิน
แต่มันอาจจะเกิดจาก “สิ่งที่อยู่ข้างในตัวเราเอง”
ก็ได้นะคะ
…………………………………………………………………………..

จริงๆ คุณอาจจะเป็นอินทรีย์ที่บินได้สูงและไกล
เพียงแค่มีกรงบางอย่างขังคุณไว้แค่นั้นเอง