หลายคนที่เข้ามาทำธุรกิจ หรือ
กำลังคิดจะขายขของออนไลน์
คงเกิดคำถามในใจว่า….
………………………………………………………………..

ฉันจำเป็นแค่ไหนที่ต้องรู้การตลาด
ฉันมีเงินจ้างคนอื่นทำเลยได้มั๊ย
ฉันไม่ได้ผลิตเอง ซื้อมา ขายไป จำเป็นด้วยเหรอ
ร้านฉันเล็กๆ คงไม่จำเป็นต้องทำมั้ง
แค่ยิงแอดเป็นก็จบแล้วมั๊ยจะทำการตลาดไปทำไม
สินค้าดี บริการดี จะกลัวอะไร ขายได้อยู่แล้ว
………………………………………………………………..

หากคุณเป็นคนนึงที่กำลังคิดแบบด้านบนอยู่
ไม่ว่าจะข้อใด ข้อหนึ่ง หรือหลายข้อก็ตาม
เมริแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ต่อค่ะ
………………………………………………………………..

เพราะต่อไปยุคแห่งการขายอย่างเดียวจะหมดไปแล้ว
การยิงโฆษณาแม่นเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ
ถ้าโพสต์นั้นไม่ได้สร้างความอยากได้หรือกระแทกให้ตัดสินใจ
ไม่ว่าคุณจะทำเองแบบตัวคนเดียว หรือ มีลูกน้อง มีทีม
สิ่งที่คุณควรรู้คือ การขายและการตลาดจะนำรายได้ให้กับธุรกิจของคุณ
คุณจำเป็นต้องรู้ เพราะสินค้าหรือว่าบริการดีๆ
วางอยู่กับที่ ไม่มีใครรู้จัก ก็จะไม่ทำเงิน
การขายตัดราดา หรือ เน้นเรื่องราคาเพียงอย่างเดียว
ไม่อาจทำให้คุณอยู่รอดในโลกที่มีอินเตอร์เน็ต ที่เช็คราคาได้อย่างง่ายดาย
และต่อไปในหลายสินค้า/บริการ ราคาจะไม่ใช่เพียงอย่างเดียวที่คนตัดสินใจ
………………………………………………………………..

1. ไม่มีใครรู้จักสินค้า/บริการ ”ของคุณ” ได้ดีเท่าคุณ

หากคุณเป็นตัวแทนสินค้า คุณก็จำเป็นต้องรู้เช่นกัน
เพราะคุณจะเข้าใจและรู้วิธีการนำเสนอได้อย่างดีกว่าคนที่ไม่รู้

2. ไม่มีใครรักและแคร์ได้เท่าคุณ

ถึงแม้คุณจะไม่ได้ผลิตเอง แต่คุณเป็นคนเลือกที่จะนำสิ่งนั้น
ออกสู่ตลาด คุณจะรู้ดีว่ามันช่วยผู้คนได้ยังไง
คุณจะรักและหลงใหลมันมากกว่าคนอื่นๆ
ยิ่งถ้าคุณเริ่มปุกปั้นมันเองคุณจะเข้าใจความรู้สึกนี้อย่างดี

3. ถ้าคุณไม่เข้าใจคุณจะไม่รู้เลยว่า สิ่งที่คุณทำอยู่มันดีรึยัง

ถ้าคุณเข้าใจกลุ่มลูกค้า เป้าหมาย เพื่อทำการตลาดต่างๆ
คุณจะเข้าใจว่า บางอย่างทำเพื่อเห็นผลในระยะสั้น
บางอย่างไม่เกิดผลทันที และคุณจะสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อีก
โดยไม่ท้อ หรือ ล้มเลิกไปก่อน หรือมองเห็นทางใหม่ๆ

พี่เมริ ขอเอาเหตุผลแบบสั้นๆ เพียง 3 ข้อ
ที่จะช่วยให้คุณเริ่มเห็นความสำคัญและอยากเพิ่มทักษะทางการตลาด
จริงๆมีหลายเหตุผลกว่านี้นะคะ
แต่วันนี้ลองดู 3 ข้อนี้ก่อน
พี่เมริเชื่อว่า ถ้าคุณอ่านอย่างตั้งใจ
คุณจะรู้ว่ามันใช่ค่ะ
และที่สำคัญการตลาดเป็นทักษะที่เรียนรู้กันได้ค่ะ
………………………………………………………………..

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#การตลาด
#เริ่มต้นทำธุรกิจ
#เริ่มต้นขายของ

ขายของเหมือนกันถ้าไม่แข่งราคาจะแข่งอะไร
ของใกล้เคียงกัน แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว ไม่รู้จะนำเสนอยังไงดี
ก็รู้แหละว่ามันต้องแตกต่าง แล้วต้องทำยังไงล่ะ

หลายคนน่าจะกำลังเบื่อกับการแข่งขันด้านราคา
เพราะนอกจากกำไรที่ลดลงแล้ว
บางครั้งยังรู้สึกว่าต้องวิ่งตลอดเวลา
เราลดแป๊บเดียว เจ้าอื่นลดอีกแล้ว
……………………………………………………………………

หลายคนรู้ดีว่า ถ้าเราแตกต่าง มันจะช่วยอัพราคาได้
หรือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ช่วยให้คนนึกถึงได้ง่ายขึ้น
……………………………………………………………………

ก่อนที่เราจะไปสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าของเรา
บริการของเรา หรือ แม้แต่สร้างตัวเราเองให้มันแตกต่าง
หรือ ภาษาทางการนิดหน่อยก็คือ การสร้างแบรนด์
การสร้าง Personal Branding
พี่เมริอยากให้คุณลองคิดและตกผลึกในมุมต่อไปนี้ก่อนนะคะ
มันจะช่วยให้คุณง่ายขึ้น
เพราะในยุคต่อจากนี้ไป
ถ้าเราไม่ต่าง ไม่มีแบรนด์ หรือแม้แต่คนที่อยากสร้างตัวตน
ถ้าภาพเหล่านี้มันไม่ชัด คุณก็อาจจะต้องอึดอัดกับสงครามราคา
และอาจจะเจอภาวะที่ว่า ขายได้มาก แต่กำไรแทบไม่เหลือ
……………………………………………………………………

คุณน่าจะติดปัญหาข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ค่ะ

1. คู่แข่ง
พี่เมริไม่ได้หมายถึงว่าคุณต้องไปลอกเลียนแบบเขา
ไปด่าว่า โจมตี หรือ ทำการตลาดแบบแย่ๆ เพื่อให้เราโดดเด่นนะคะ
หรือแม้แต่คนที่มีจิตใจมีคุณธรรรม บอกว่า ฉันไม่แข่งกับใคร แข่งกับตัวเองพอ
ฉันไม่มีคู่แข่งหรอก ฟังพี่เมริก่อนนะคะ

ปัญหานึงที่คุณจะแตกต่างแต่ไม่โดดเด่น หรือ ไม่ชัดเจน
นั่นคือ คุณไม่รู้จักคู่แข่งของคุณ คุณไม่รู้ว่ามีใครอยู่ในตลาดบ้าง
พี่เมริไม่ได้หมายถึง คุณต้องไปแก่งแย่งชิงดี
แต่การที่คุณรู้ ณ จุด ๆ นี้ มันจะช่วยให้คุณเค้น ออกมาได้ว่า
ข้อดีที่เรามี บุคลิกที่เราเด่น จุดนำเสนอที่ควรใช้ มุมไหนมันจะได้ผลดี
อย่างดาราตลก ในเมืองไทยก็มีไม่น้อย แต่ว่า ทำไมบางคนก็มีจุดเด่น
นี่แหละค่ะ ที่พี่เมริหมายถึง เราก็แตกต่างได้ เด่นได้ สร้างแบรนด์ได้
โดยไม่ต้องไปทำร้ายใคร เพียงแต่ มันจะช่วยให้หาได้ชัดเจนมากขึ้น
ดังนั้น ลิสต์ออกมาก่อนนะคะ ว่าคนที่อยู่ในสนามเดียวกับคุณมีใคร และเขาเด่นด้านไหน
……………………………………………………………………

2. หาข้อดีตัวเองไม่เจอ
บางครั้งสินค้าเรามันเหมือนกับคนอื่นมากๆ เลย
แทบจะหาอะไรแตกต่างไม่ได้เลย
ถ้าใครเริ่มต้นสินค้าดี หรือ บริการดี ข้อนี้ก็จะมีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ
แต่ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยของห่วย พี่เมริขอแนะนำให้คุณรีบหาทางปรับเปลี่ยน
หรือพยายามหาของดีมาแทนนะคะ เพราะอย่างนั้น แรงพลังที่คุณสร้างขึ้นมา
ไม่ว่าจะสร้างแบรนด์ สร้างจุดเด่น สร้างความแตกต่าง แค่ไหน
มันก็จะพังลงไม่ช้า เพราะคนเขาเอาไปใช้แล้วไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเขา
หรือมันไม่โอเคมากๆ

ภาษาทางการ เขาบอกว่า เราหา USP หรือหา Unique Selling Point
(บางที่ก็เรียก Unique Selling Proposition) ตรงนี้ไม่เจอ
คือ ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาเป็น USP ดี ถ้าสินค้าดี มันมีหนทางค่ะ

……………………………………………………………………

จริงค่ะ ว่าสินค้าดี บริการดี วางอยู่กับที่ ใช่ว่าจะขายได้ดี
แต่ก็จริงอีกเช่นเดียวกันที่ว่า… สินค้าห่วย บริการแย่ ถึงการตลาดดี
มันจะขายได้ดีแค่แว๊บเดียว ไม่ยั่งยืน
……………………………………………………………………

คุณอาจจะต้องให้ความสำคัญในการเลือก หรือ ลองบิดหามุมมองอื่นๆ มานำเสนอ
เช่น ยาแต้มสิว เรารู้แหละว่ามันช่วยให้สิวยุบ คือ คุณสมบัติทั่วไปที่มันควรต้องมี
แต่ของคุณช่วยให้ไม่แสบตอนทา ไม่ลอก ไม่ทิ้งรอยแดง แบบเด่นขึ้นไปอีก เป็นต้น
……………………………………………………………………

3. เหมารวมทั้งตลาด
ภาพคุณไม่ชัดว่าต้องการตอบโจทย์ใคร ใครก็ได้ หรือ กลุ่มลูกค้าที่กว้างเกินไป
คุณเลยไม่รู้ว่าเราจะคุยกับใครดี จะบอกเขาว่ายังไง เลยไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไร
หรือจะนำเสนอให้มันแตกต่างยังไงถึงจะโดนใจ
……………………………………………………………………

ลองเคลียร์ภาพทั้ง 3 ส่วนนี้ให้ชัดนะคะ แล้วค่อยมาแมตซ์กับข้อดีที่คุณมี
ซึ่งบางครั้งมันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่พิสดารมากแบบที่คุณคาดไม่ถึง
มันอาจจะเป็นเรื่องเรียบง่าย อย่างคำพูดบางคำ วลีบางอย่าง
ท่าประจำตัว เพียงแต่คุณทำก่อนหรือทำแล้วมันโดนก็เป็นไปได้ค่ะ

……………………………………………………………………

#โอกาสยังคงมีสำหรับคนที่มองหา

……………………………………………………………………
แนวคิด และ วิธีการ 3 ข้อที่พี่เมริเอามาเล่าให้ฟังผ่านบทความนี้
พี่เมริเชื่อว่า จะช่วยให้คุณเริ่มต้น ตั้งหลัก ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมนะคะ

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#EasyMarketing
#สร้างแบรนด์
#สร้างความแตกต่าง
#Branding
#PersonalBranding

เอาแค่ชื่อเราเป็นชื่อเพจเลยไม่ได้เหรอ
อยากตั้งแบบอาร์ทๆ ไม่เห็นต้องตามใคร
ใช้ภาษาแปลกๆ เลยได้มั้ย

พี่เมริได้รับคำถามเรื่องการตั้งชื่อเพจค่อนข้างบ่อย
และบางครั้งถึงต้องตกใจว่า…
ที่ยังไม่เปิดเพจซักทีเพราะหาชื่อดีๆไม่ได้ค่ะ
ก่อนอื่นขอบอกและออกตัวไว้ก่อนว่า
การตั้งชื่อเพจ ไม่มีผิดไม่มีถูก
ตราบใดที่ไม่ได้ผิดกฎของเฟสบุค
………………………………………………………………………….

แต่เพื่อช่วยให้มือใหม่ได้เริ่มต้นลงมือทำ
และช่วยให้อุ่นใจหรือมีทิศทางมากขึ้น
พี่เมริอยากให้แนวคิดเป็นแนวทางเบื้องต้นแบบนี้นะคะ

………………………………………………………………………….

1. ตั้งชื่อเราเป็นชื่อเพจ เลยได้มั้ย ตั้งชื่อแปลกๆ ได้เลยรึเปล่า
ถ้าดังแล้วจะตั้งแบบนั้นเพียวๆ ก็ไม่เสียหายอะไรค่ะ
เพราะถึงไม่อธิบายว่าเป็นใคร เป็นเพจเกี่ยวกับอะไร
คนก็รู้อยู่แล้ว เช่น ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ
sean buranahiran – ฌอน บูรณะหิรัญ
อีเจี๊ยบเลียบด่วน อีจัน หมอแล็บแพนด้า
เพราะเขารู้จักแล้วค่ะ

แต่สำหรับเพจใหม่ๆ รึคนที่เพิ่งเริ่มเลย
มันอาจจะมีคำถามว่า เมริ ไหนอ่ะ ใครเหรอ
การที่เราเพิ่มคำจำกัดความ คำขยาย คำคีย์เวริ์ด
จะช่วยให้คนเข้าใจ และรู้ได้ง่ายและเร็วขึ้นค่ะ
ว่าเป็นเพจเกี่ยวกับอะไร
(ดังแล้วค่อยตัดออก เหลือแต่ชื่อก็ได้ค่ะ)
………………………………………………………………………….

2. ต้องมีคีย์เวิร์ด ด้วยเหรอ แล้วสั้นๆ รึยาวดี ไม่มีได้มั้ย
ปกติเวลาที่เราจะค้นหาอะไรซักอย่าง
เรามักจะค้นหาด้วยการ เซริ์ทข้อมูล เช่น search ใน google
การมีคำคีย์เวริ์ดในชื่อเพจ ไม่ได้การันตี 100%ว่าจะค้นเจอ
หรือติด SEO แต่มันช่วยให้การค้นหาผ่าน google
หรือแม้แต่ใน Facebook เอง มีโอกาสมากกว่า
ไม่มีคำคีย์เวิร์ดเลย สำหรับเพจที่ยังไม่ดังมาก
และถ้าในโพสต์ของคุณมีคำที่เป็นคีย์เวิร์ดอยู่ด้วยบ่อยๆ
หรือมีแฮชแทก # ที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วย
ก็ช่วยเพิ่มโอกาสได้มากกว่าไม่มีนะคะ

ส่วนจะสั้นรึจะยาวดี พี่เมริว่าได้ทั้งสองแบบนะคะ
รวมถึงคีย์เวริ์ดที่เราใช้ในชื่อเพจด้วยบางคนใช้แบบที่เพิ่มคำเฉพาะลงไป
อย่างคำว่า มือสอง พวกนี้ก็ทำได้เลยค่ะ
อย่างลงทุนแมน พี่เมริว่าชื่อดีดี๊ คือ สั้น แต่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร
เพราะชื่อเขามีคีย์เวริ์ดในตัวเลยค่ะ

………………………………………………………………………….

3. จะเปลี่ยนชื่อดีมั้ย เปลี่ยนตอนไหนดี
พี่เมริเองก็เปลี่ยนค่ะ คนดังหลายคนก็เปลี่ยน
หรือบางคนไม่เปลี่ยนเลยก็มี คือเอาอย่างนี้นะคะ
ถ้ายังไม่ดัง หรือดังยังไม่มากแล้วอยากเปลี่ยนให้มันดีขึ้น
เปลี่ยนเลยค่ะ
เพราะถ้าดังแล้วการเปลี่ยนชื่อหรือการสร้างภาพจำใหม่
มันจะใช้เวลามากกว่า เพราะคนรับรู้ รู้จัก และคุ้นชินไปแล้ว
ดังนั้น มือใหม่ไม่ต้องกังวลนะคะ

พี่เมริอยากให้เทคนิคอีกอย่างค่ะ
อะไรที่เป็นคำเฉพาะช่วง รึแบบแฟชั่นสุดๆ
แบบชนิดที่ฮิตฮอทช่วงสั้นๆ ถ้าเลี่ยงได้พี่เมริว่า
เลี่ยงไปเลยน่าจะดีกว่าค่ะ เพราะมันอาจจะโดนในช่วงหนึ่ง
แต่อาจจะดูไม่เก๋ ไม่เท่ห์ หรือดูเอ้าท์ เมื่อช่วงเวลาเปลี่ยน
เช่น จ๊าบ เด็ดดวง
สมัยพี่เมริเป็นสาวๆ เชื่อว่าถ้า พี่เมริเอามาใช้เป็นชื่อเพจ
: พี่เมริ การตลาดสุดจ๊าบ
หรือเป็น เด็ดดวงการตลาด
คนที่เข้ามาเจอเพจพี่เมริอาจจะคิดว่า
ชื่อแบบนี้ไม่น่าจะทันโลกออนไลน์แล้วมั้ง
ดูน่าจะยังพิมพ์ดีดอยู่เลย ก็เป็นได้
………………………………………………………………………….

จริงๆชื่อยังบ่งบอก
ภาพลักษณ์และอารมณ์ความรู้สึกได้ด้วยนะคะ
อย่างเช่น ลัลล๊า Happy คิดบวก
………………………………………………………………………….

มือใหม่พอได้ไอเดียนะคะ
ย้ำอีกครั้งว่า
ไม่มีถูกไม่มีผิดค่ะ
แต่แค่อยากให้ได้เริ่มลงมือทำหรือได้ก้าวไปข้างหน้าก่อน
เพราะเมื่อเริ่มออกเดินทาง
เดี๋ยวหนทางต่างๆจะตามมาอีกเพียบค่ะ

………………………………………………………………………….

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#ตั้งชื่อเพจ
#เทคนิคการตั้งชื่อเพจ
#ตั้งชื่อเพจยังไงดี
#OnlineMarketing
#DigitalMarketing
#EasyMarketing

#โลกออนไลน์ต้องการอะไร ?
ระหว่าง
“ทำ” ได้เยอะ กับ “จำ” ได้เยอะ
เส้นบางๆ ระหว่าง ทำกับจำ
หลายคนคงเคยได้ยิน
อายุน้อยร้อยคอร์ส
หรือบางที อายุมากก็ร้อยคอร์สเหมือนกัน

หลายคนลงทุนกับตัวเองหนักมาก
แต่ว่าไม่เคยลงมือทำซักที
ได้แต่นั่งจำวิธีอย่างนี้
แล้วเมื่อไรจะสำเร็จ ?

บนโลกออนไลน์ต้องการการลงมือทำค่ะ
และทำอย่างต่อเนื่องด้วย
นั่นคือ “ทำได้เยอะ”

แต่สำหรับเมริแล้ว การทำได้เยอะอย่างเดียวคงไม่พอ
แต่คุณควรทำให้ “ลูกค้า” หรือ “ว่าที่ลูกค้า”
“จำได้เยอะ” ด้วย

หมายถึง….
จำเราได้เยอะกว่าคนอื่นๆ หรือ คู่แข่งของเรา
เพราะถ้าคุณทำอะไรที่คนอื่นๆ เขาก็ทำ
โดยขาดเอกลักษณ์ของตัวเอง
ข้อมูลบนโลกออนไลน์หนาแน่นขนาดนี้
สิ่งยั่วยุก็ไม่น้อย
โอกาสที่ถูกลืมก็จะมีไม่น้อย

ซึ่งถ้าเมื่อไรที่คุณถูกลืม
แถมยังไม่เคยกระตุ้นลูกค้า และว่าที่ลูกค้าอีก
คุณก็จะยังไม่เข้าใกล้ยอดขายที่คุณต้องการ

เส้นบางๆ ระหว่างคนที่ลงทุนกับตัวเองแล้วสำเร็จ
คือการลงมือทำ
แต่ไม่ว่าคุณจะลงมือทำมากแค่ไหน
แต่ถ้าคุณไม่เรียนรู้ เอาไปต่อยอด
สร้างเอกลักษณ์ให้เป็นที่จดจำ หรือ แตกต่าง
หรือทำ ทำ ทำ แต่ไม่เคยวิเคราะห์ต่อ
คุณอาจจะเหนื่อยและท้อ
และอำลาวงการออนไลน์
อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลยค่ะ

ถ้าเราคิดว่ายังไงก็ต้องทำหรือหนีไม่พ้น
และเราอยากสำเร็จกับมัน
ขอให้ “ทำ” ได้เยอะ กับ “จำ” ได้เยอะ
ไปพร้อมๆ กัน
เพราะนั่นคือ สิ่งที่โลกออนไลน์ต้องการค่ะ

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#Mayri
#OnlineMarketing
#EasyMarketingStartedHere

#ไม่รู้คือพลาดมาก เรื่องเล็กๆ น้อย ๆ ที่ช่วยคุณได้. หลายคนมองข้าม คือ “หน้าเกี่ยวกับ” หรือ “About” ในเพจของเรา

1. อยากเปลี่ยนชื่อเพจ ไปที่หน้านี้ได้เลยค่ะ
ถ้าไม่เปลี่ยนแบบสุดโต่งจากเดิมจนเกินไป
จะใช้เวลาขออนุมัติไม่นาน แต่ถ้าเปลี่ยนเยอะ
แนะนำให้ค่อยๆ เปลี่ยนทีละส่วน และควรเว้นระยะเวลา
ประมาณ 7 วันค่อยขอเปลี่ยนชื่อใหม่

2. อยากสร้างลิงค์เพจ หรือ ชื่อผู้ใช้งาน หรือ URL
ก็สามารถสร้างได้จากในหน้าเกี่ยวกับด้วยเหมือนกัน
แต่ชื่อผู้ใช้งานหรือ URL เพจต้องไม่ซ้ำกับคนอื่น
และต้องเป็นภาษาอังกฤษ ตัวเลข หรือ จุด ตัวอักษรแปลกๆ ใช้ไม่ได้ ภาษาไทยไม่ได้ และความยาว 5-50 ตัวอักษร

3. อยากได้ลิงค์อินบ๊อกซ์
ก็มาจากหน้าเกี่ยวกับเช่นเดียวกัน ตรงสัญลักษณ์รูปอินบ๊อกซ์
Copy ตรงนั้นไปส่งให้ลูกค้า ได้เลย
หรือใครมี URL เพจ ก็ใช้วิธี m.me/URL เพจได้
แต่คิดว่าเข้ามาหาในหน้า เกี่ยวกับ จะง่ายกว่าค่ะ

4. อยากลิงค์ไปเว็บไซต์ อีเมลล์
ก็ง่ายและสะดวกสุดๆ ที่นี่ได้เลย
ใส่ข้อมูลในหน้าเกี่ยวกับ ไปตรงข้อมูลติดต่อ
เพียงเท่านี้ คนก็กดไปดูเว็บไซต์เราได้ง่ายๆ
แต่จำกัดนิดหน่อยค่ะ คือ Line YouTube ใส่ได้
และข้อมูลแสดงขึ้นมาให้ แต่มันจะไม่ยอมให้ลิงค์ไปค่ะ
(คนละค่าย ก็ต้องเข้าใจเขานิดนึงนะคะ)

5. อยากบอกว่าเป็นเพจเกี่ยวกับอะไร
ชื่อบอกแล้วแต่มันยังไม่พอ หรือ ชื่อเพจมันยังไม่สื่อ
เราสามารถเพิ่มข้อความสั้นๆ เพื่อบอกว่าเราเป็นเพจเกี่ยวกับอะไร หรือ เป็นใคร ได้ง่ายๆ ในหน้าเกี่ยวกับ เหมือนกันค่ะ
และมันจะโชว์หน้าเพจเรา ใต้รูปโปรไฟล์ ดีงามจริงๆ ค่ะ

6. อยากบอกความเป็นมา
ไปที่หน้าเกี่ยวกับ
ความเป็นมา เพิ่มเรื่องราวของเรา
คุณสามารถเพิ่มรูปภาพ คำบรรยาย ลิงค์ คำค้น สิ่งต่างๆ ที่จะช่วยให้เพจ ดูน่าเชื่อถือ ค้นหาได้ง่าย
รู้ว่าเป็นเพจเกี่ยวกับอะไร
คนก่อตั้งเป็นใคร ทีมงานเก่งแค่ไหน
หรือว่า เจ๋งแบบไหน ได้ที่นี่
แหล่งสร้างความน่าเชื่อถือ
ที่สำคัญมันฟรี แนะนำให้ใส่
(คนไม่อ่านไม่เป็นไร แต่เชื่อมั๊ยว่า…
มีบางคนเขาจะเข้ามาอ่านก่อนตัดสินใจ)

เรื่องเล็กๆ ในหน้า “เกี่ยวกับ”
หรือ “About”
เราเอามาใช้ประโยชน์ได้ง่ายๆ แบบทันทีเลยนะคะ

“แชร์” ไปบอกเพื่อนของคุณให้เขารู้
เขาจะได้เอาไปใช้ง่ายๆ กันเลยค่ะ

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#เปิดเพจขายของ
#เทคนิคเปิดเพจ
#OnlineMarketing
#เปลี่ยนชื่อเพจ
#วิธีสร้างเพจให้น่าเชื่อถือ

จะเปิดเพจเลยดีมั๊ย
จะแยกเพจดีรึเปล่า
เพจเก่ามีอยู่แล้ว แต่ทิ้งไปนาน ทำต่อหรือเปิดใหม่ดี
กลุ่มคนที่ตามอยู่เป็นคนละกลุ่มกันจะเปิดเพจใหม่ดีมั๊ย
เสียดายเพจเดิมคนตามเยอะ

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า…
เมื่อไรที่เราควร แยกเพจ ตอนไหนดี
หรือเปิดเพจใหม่ดี

พี่เมริ อยากลองให้ไอเดีย 4 อย่างนี้ค่ะ

1. เช็คกลุ่มเป้าหมาย
ถ้ากลุ่มเป้าหมาย กลุ่มว่าที่ลูกค้า หรือ คนที่เราต้องการ
มีลักษณะใกล้เคียงกัน ลิงค์กันได้ หรือ เชื่อมโยงกับเพจเดิม
ไม่จำเป็นต้องเปิดเพจใหม่ ต่อยอดจากเพจเดิมได้

2. ถามความตั้งใจของเรา
ถ้าเพจที่เราจะเปิดใหม่ มีเป้าหมายที่ชัดเจน
เช่น สร้างรายได้ ทำตามความฝัน
แม้จะต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นก็ยินดี หรือ
ทำแล้วมีความสุข สนุก เปิดอีกเพจได้เลย

3. ต่างจากเดิมเยอะมั๊ย
ถ้าเป็นเพจที่คล้ายๆ กัน
ไม่ต้องใช้พลังมากกว่าเดิมเท่าไร
บางคนเปิดหลายเพจ เพื่อดักไว้
บางคนใช้วิธีปั้นเพจเดียวให้โต
อันนี้เลือกได้ตามความถนัด
เพราะมันใช้พลังงานจากเดิมไม่เยอะ
แต่ถ้าต่างกันมากๆ ให้คิดซะว่า
เราต้องดูแลลูกอีกคน เราไหวมั๊ย?

4. มองช่องทางอื่นๆ
ถ้าเพจคือช่องทางหลัก ที่กลุ่มเป้าหมายเราอยู่
ก็สามารถทำได้ จะเปิดกี่เพจก็ได้เท่าที่เราไหว
แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายเราอยู่ในช่องทางอื่นๆ
เช่น IG TikTok Youtube
ลองเพิ่มช่องทางอื่น นอกจากเพจด้วยก็ดีค่ะ

ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้
“แชร์” ไว้ใช้ได้เลยนะคะ

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#OnlineMarketing
#เปิดเพจ
#เฟสบุค
#Fanpage
#SocialMedia
#Facebook

คุณทำอะไรเพียงง่ายๆ หรือเป็นเรื่องเล็กน้อยๆแต่กลับได้ผลลัพธ์แบบตรงกันข้าม

.หลายคนที่เปิดเพจมานานแล้ว ไม่เคยทำ หรือกลับมองข้ามไป เพราะไม่เชื่อว่ามันจะได้ผล.มือใหม่หลายคนไม่เคยรู้ว่า มันทำได้ด้วยเหรอ.
พี่เมริอยากจะมาแชร์ 3 เทคนิคง่ายๆแต่จะช่วยให้เพจคุณขายได้มากขึ้นมันอาจจะดูเป็นหลักการธรรมดาๆ หรือเรื่องพื้นๆ ที่คุณรู้ว่า “มี”แต่คุณไม่เคยใช้มัน ในแง่ที่เอามาช่วยเพิ่มรายได้หรือพูดง่ายๆ ไม่เคยใช้มันมาทำการตลาดนั่นแหละ

1. การปักหมุดไว้บนสุดของเพจดูเป็นเรื่องธรรมดา และทำได้ภายใน 3 คลิกแต่พลังของมัน กลับสร้างความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดีคุณลองไปสังเกตเพจหลายๆ เพจ. #มือโปรเขาใช้โพสต์นี้แทนการยิงแอดเขาจะใช้การรวมเนื้อหาที่น่าสนใจ

เช่น แจก 40 เทคนิคทำคลิปวีดีโอ 30 วิธีปิดการขาย ทำเป็นลิงค์ไว้ในโพสต์ๆนึงแล้วก็ปักมันไว้ด้านบนสุดของเพจยิ่งถ้าโพสต์นั้นเกิดการแชร์ ความน่าเชื่อถือ ก็ยิ่งมีมาก คนก็จะยิ่งแชร์มาก พี่เมริเรียกว่า “โพสต์เรียกแขก”
คุณลองคิดดูนะคะ เปิดมาในเพจ ก็เจอโพสต์แรกที่คนแชร์ไปแล้ว 100 กว่าครั้ง มันน่าประทับใจตั้งแต่ก้าวขาเข้ามามั๊ยล่ะ ?

กลับสร้างความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดีคุณลองไปสังเกตเพจหลายๆ เพจ
#มือโปรเขาใช้โพสต์นี้แทนการยิงแอดเขาจะใช้การรวมเนื้อหาที่น่าสนใจ เช่น แจก 40 เทคนิคทำคลิปวีดีโอ 30 วิธีปิดการขาย ทำเป็นลิงค์ไว้ในโพสต์ๆนึงแล้วก็ปักมันไว้ด้านบนสุดของเพจยิ่งถ้าโพสต์นั้นเกิดการแชร์ ความน่าเชื่อถือ ก็ยิ่งมีมาก คนก็จะยิ่งแชร์มาก พี่เมริเรียกว่า “โพสต์เรียกแขก”
คุณลองคิดดูนะคะ เปิดมาในเพจ ก็เจอโพสต์แรกที่คนแชร์ไปแล้ว 100 กว่าครั้ง มันน่าประทับใจตั้งแต่ก้าวขาเข้ามามั๊ยล่ะ ?

 
2. กำหนดเวลาโพสต์ล่วงหน้า
อีกหนึ่งเรื่องธรรมดา แต่สร้างยอดขายและเป็นเครื่องมือ ทำการตลาดอย่างดี ทั้งในแง่ ของความสม่ำเสมอ
เช่น คุณตั้งเวลาโพสต์เวลาเดิม ทุกวันๆทำให้ฐานแฟนคลับรอคอยที่จะติดตาม
 
หรือ วันที่ไอเดียคุณพุ่งพล่าน คุณทำคอนเทนต์เก็บไว้. เชื่อมั๊ยคะ คุณยังมีเวลาเอาไปเกลาให้คมขึ้นได้อีก
หรือแม้แต่ในแง่ของคนอ่าน มันจะมีพลังมากกว่าวันที่หัวคุณตันๆ พลังของคอนเทนต์ต่างกัน
รวมถึง การสร้างเรื่องราวต่อเนื้อง สอดคล้องกับสิ่งที่คุณต้องการขาย คุณสามารถวางแผนคอนเทนต์หน้าเพจ
ให้ต่อเนื้อง ร้อยเรียงเป็นเรื่องเดียวกัน บิ้วอารมณ์คนตาม
ก่อนสินค้าจะออก พูดง่ายๆ วอร์มฐานแฟนของคุณ
 
#เป็นเหมือนเซลล์เพจ #แต่คุณแบ่งย่อยๆ มันออกมา
ไม่ได้ทำในหน้าเดียว ระหว่างคนที่บิ้วมาเรื่อยๆ กับคนไม่บิ้วอะไรเลย โอกาสความอุ่นของว่าที่ลูกค้าก็ต่างกันค่ะ

 
3. แท็กสินค้า
 
ในโพสต์ 1 โพสต์ คุณสามารถแท็กสินค้าได้ด้วย จะเยอะจะน้อย ขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่คุณต้องการ
เช่น คุณต้องการขายเป็นเซท โนโพสต์ 1 โพสต์นี้. คุณก็แท็กสินค้าไปเป็นซีรียส์เดียวกันซัก 3 ชิ้น
(ทางเฟสบุคแนะนำ แท็กสินค้า 1 โพสต์ ไม่ควรเกิน 5 ชิ้น)
 
ระหว่างคุณให้เขาไปดูสินค้าเองในร้านค้า กับคุณจัดสรรวางไว้ตรงหน้ามาให้แล้ว แถมบางคนจัดเป็นเซทไม่ได้แค่ชิ้นเดียว
โอกาสที่ลูกค้าจะสั่งซื้อแบบนี้จะง่ายกว่า. เพราะข้อมูลมันพร้อมเสริ์ฟ มันพร้อมโดนให้ควัก
 
#ถ้าเขากำลังต้องการคุณต้องพร้อมเสริ์ฟ นี่คือประโยชน์ของการแท็กสินค้าในโพสต์

 

และที่สำคัญ มันไม่ได้ทำให้คุณจ่ายเงินเพิ่มเลยซักบาทเดียว
และไม่ต้องตีลังกา 36 ตลบ
มันคือ วิธีการ เครื่องมือ ที่เรียบง่าย ที่เฟสบุคให้มา
เพียงแต่ว่า…
ไม่มีใครมาขยี้ให้คุณเห็นความสำคัญ
หรือเอาไปประยุกต์ใช้แค่นั้นเองค่ะ
 
#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#เทคนิคสร้างเพจให้ทำเงิน
#เทคนิคการตลาด
#เทคนิคเพิ่มยอดขาย
#OnlineMarketing
#เปิดเพจ
 

ใส่ Logo ตอน Facebook live ในมือถือ Version Update ล่าสุด 1 กย 62

#เทคนิค เพิ่ม logo ของเรา ตอนทำ Facebook Live

ที่สำคัญ !!! มันใช้เมื่อเรา Live ผ่านมือถือ ไม่ต้องเข้า OBS เลยจร้าาา เข้าไปทำที่ลิงค์นี้ค่ะ https://developers.facebook.com/frames/manage

ทำได้ทั้งตั้งและแนวนอนจร้า มือถือ Smart Phone ไม่จำกัดค่ายจร้า

มาสร้างให้คนจดจำแบรนด์ง่ายขึ้น ด้วยการเพิ่ม logo ตอน Live กันค่ะ

Read more