“อยากเขียนคอนเทนต์ให้ขายได้” มีสิ่งนี้รึยัง?

เมริอ่านคอนเทนต์ของพี่แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?

พี่คนนึงถามขึ้น หลังจากเรานั่งกินกาแฟด้วยกัน

เมริ: เนื้อหาดีมากเลยนะพี่ แต่….

พี่ลองดูบทความของคนนี้นะคะ

โหยาวจัง พี่เขาตอบ แต่ก็อ่าน

อ่านไปซักพัก เมริก็เลยถามกลับไปว่า..

อ่านแล้วพี่รู้สึกยังไง?

พี่เขาตอบกลับมาว่า

พี่ว่าเนื้อหามันคล้ายๆ ของพี่เลย

แต่มันก็ไม่เหมือนซะทีเดียวนะ 

มันสนุกดีแฮะ  ของพี่ดูแห้งๆ ไปเลย

.……………………………………………………………………

ช่ายค่ะ สิ่งที่เมริอยากจะบอกพี่คนนั้น

กับคุณที่กำลังนั่งอ่านอยู่ตรงนี้

.……………………………………………………………………

เคล็ดลับอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้คุณขายได้ดีขึ้น

นั่นคือ แทม แท๋ม แท้มมมมมม!!!

“ตัวละครเอก”

“ความมีชีวิตชีวา”

“เรื่องเล่า”

.……………………………………………………………………

ลองคิดภาพตามเมรินะคะ

ทำไมเราถึงจำและสนใจประวัติศาสตร์มากขึ้น

หรืออยากแต่งตัวชุดไทยทมากขึ้น 

หลังจากที่เราดู บุพเพสันนิวาส

.……………………………………………………………………

ทำไมความเชื่อเรื่องพญานาคถึงเป็นที่สนใจมากขึ้น

และคนไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ที่พี่มดดำเอามาเล่าในรายการแฉ

.……………………………………………………………………

บางครั้งการขายก็เกิดจากการไม่ขาย

หรือเกิดจากคอนเทนต์ / เนื้อหา / วีดีโอ  

จนทำให้เกิดความอยากได้ อยากซื้อ อยากไป อยากเป็นบ้าง

.……………………………………………………………………

สมมติ คุณหมอคนนึงเขียนบทความหน้าเพจ

และในบล็อกของตัวเอง

พูดแต่เรื่องกระบวน ผลิตเมลานิน

สารอารตามผลิตไม้ต่างๆ ที่ช่วยให้ผิวสวย

ลดรอยเหี่ยวย่น

และคุณหมอคนอื่นๆ

เพจความงามอื่นๆ

ก็เขียนคล้ายๆ กัน เอาเป็นว่า บางทียังกับก็อบกันมาเลย

สลับบรรทัดนิดหน่อย  เปลี่ยนและเป็นหรือ 

อ่านไปเราก็แทบจะจำไม่ได้ ว่าไปเจอที่ไหนมา ไปอ่านที่ไหนมา

หรือยังกับเกิดแดจาวู ว่าเอ๊ะ!! ทำไมเหมือนเคยอ่านมาแล้ว

.……………………………………………………………………

แต่พอมีหมอคนนึงออกมาเล่าให้ฟังว่า

มีคนไข้ที่เคยมาปรึกษา

เขาไปนอนอาบแดดกับแฟนฝรั่งมา

หน้ากับผิวนี้ไหม้เลย….

ปรากฎว่า แฟนฝรั่งกลับมา

จำไม่ได้ ผิวนี้กลับไปขาวเกือบเท่าเดิม แค่เวลาเดือนกว่าๆ

หมอแนะนำให้เขาทำแบบนี้ค่ะ…..

ตอนแรกเขาก็ไม่คิดว่าจะได้ผลเร็วขนาดนี้

.……………………………………………………………………

คุณว่า… คุณจะจำ หรือ นึกถึง  หรือ อยากไปใช้บริการกับ….

หมอคนนี้ หรือ หมอคนก่อน กับเพจก็อบวาง ก็อบวาง อันไหนมากกว่ากันคะ ?

.……………………………………………………………………

หลายคนก็บอกว่า…

ฉันก็มีเรื่องเล่านะ แต่เหมือนก็เงียบๆ ไม่มีคนทัก ไม่มีคนแชร์เท่าไร

คุณเล่าเรื่องแบบนี้รึเปล่าล่ะ ?

ตอนเข้า พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก

พอตอนกลางวัน มันจะอยู่ตรงกลางศรีษะของเรา

แล้วพอตอนเย็นมันก็ตกทางทิศตะวันตก

แล้วตอนกลางคืนก็จะมองเห็นพระจันทร์แทนพระอาทิตย์

นึกภาพออกมั๊ยคะ

.……………………………………………………………………

มันก็ไม่ต่างกับคุณเอาข้อมูลมาเรียงๆ 

แต่ขาดความมีชีวิตชีวา

ขาดอารมณ์ ขาดตัวละคร

เหมือนคุณเอาคุณสมบัติของสินค้ามาเรียงๆ ต่อกัน

.……………………………………………………………………

สมองของคนเราจำเรื่องเล่าได้ดี

สนใจเรื่องราวได้มากกว่าข้อมูลทั่วไป

.……………………………………………………………………

วิธีการที่เมริจะแนะนำในวันนี้คือ…

นอกจากคุณมีพาดหัวที่ดีแล้ว

คุณควรทำให้บทความของคุณน่าติดตาม

หรืออย่างน้อยก็ดึงคนอ่านให้อยู่กับคุณ จนถึงสิ่งที่คุณอยากบอก

หรือไม่ ก็ทำให้เขาชอบคุณ เชื่อคุณ จำคุณได้ 

ให้เขารู้สึกคนคือ ความแตกต่าง

ด้วยการ “ใช้ความมีชีวิตชีวาเข้าไป”

วิธีการนี้ค่อนข้างเหมาะกับ คอนเทนต์

ในเพจ ในเว็บไซต์ ในบล็อก หรือแม้แต่ใน E-mail

ส่วนถ้าคุณจะใช้ Line OA ก็ใช้สำหรับประกาศให้เขาไปอ่านต่อ

ตาม เพจ เว็บไซต์ บล็อก หรือ ดูวีดีโอของคุณ จะเหมาะกว่าที่เล่ายาวๆ ผ่าน Line

(วิถึสายยาว ไม่ใช่แนว IG )

.……………………………………………………………………

แล้วมันจะช่วยให้ขายดี ได้ยังไงล่ะ ?

คอนเทนต์หน้าเพจ/บล็อก/เว็บไซต์

คือ “โพสต์ขาย แบบไม่ขาย” อย่างนึง

(มันคือการตลาดอย่างนึงค่ะ)

หลายคนเขียนเซลล์เพจดี โพสต์ขายก็ใช้ได้

แต่บางทีเราก็ขอกดเข้าไปดูเพจ ดูเว็บ เขานิดนึง

ก่อนจะซื้อ

.……………………………………………………………………

สิ่งเหล่านี้มันช่วยให้เรารู้สึกว่าควักเงินง่ายขึ้น 

ถ้าคุณเป็นคนขี้อาย เก็บตัว มีโลกส่วนตัวสูง

ไม่อยากเล่าเรื่องของตัวเอง

ก็เล่าเรื่องของลูกค้า เพื่อน คนรู้จัก คนดัง แทนก็ได้

ที่มันเชื่อมโยงกับสินค้าหรือบริการของคุณ

(บางทีมันกลายเป็นรีวิวชั้นดีเลยแหละ)

แต่อย่าลืมทำให้มันมีชีวิตชีวา ด้วยล่ะ

เพราะข้อมูลทุกวันนี้มันหาง่าย

แต่ใช่ว่าข้อมูลเดียวกันจะทำให้ “เขาเลือกคุณ”

.……………………………………………………………………

ยังไม่เก่งไม่เป็นไรนะคะ

ฝึกไปด้วยกัน แรกๆ มันจะยังไม่ชินค่ะ เมริเองก็เป็น

และทุกวันนี้ก็ยังฝึกอยู่ พอได้ไอเดียอะไรดีๆ ก็เลยอยากเอามาแบ่งปัน

ไม่ต้องกลัวว่าเขียนยาว คนไม่อ่าน

เพราะถ้าเขาไม่อ่าน มันมี 2 อย่างคือ

เรายังเขียนไม่ดีพอ

หรือเขาไม่ใข่ว่าที่ลูกค้าตัวจริงของเรา

.……………………………………………………………………

“อยากเขียนคอนเทนต์ให้ขายได้” คุณมี……แล้วรึยัง ?

เปิดเพจไว้แต่ไปต่อไม่เป็น
นี่ใช่คุณรึเปล่า

เปิดเพจไว้ แต่ไปต่อไม่เป็น ทำยังไงดี ?
ใครเป็นแบบนี้บ้างคะ
บางคนตอนเริ่ม ไฟลุก พร้อมลุย แล้วก็ลุย
“แต่ซักพักก็เลิกไป” หรือไม่ก็ปล่อยร้างไว้
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?
……………………………………………………………………….

เปิดเพจมันง่ายค่ะ กดเพียงไม่กี่คลิกก็มีเพจแล้ว
แต่ปัญหาของคนส่วนใหญ่ คือ….
เปิดเพจแล้วยังไงต่อ ? “ไปต่อไม่เป็น”
หลายคนรู้นะคะว่าเป้าหมายคือ “ขายของ”
หลายคนรู้นะคะว่าเป้าหมายคือ “สร้างรายได้”
ไม่ว่าจะเป็นรายได้หลัก หรือ รายได้เสริมก็ตาม
……………………………………………………………………….

นี่เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้พี่เมริตัดสินใจ
ทำ E-book กับเนื้อหา “เริ่มต้นแบบมือใหม่ขายได้แบบมือโปร”
เพราะพี่เมริเป็นคนนึงที่เคยอยู่ ณ จุด ๆ นั้นมาก่อน
พี่เมริจะเอาแก่นบางส่วนมาแบ่งปันผ่านบทความนี้
สาเหตุหลักๆ เพื่อเป็น Checklist ของตัวคุณเองคือ…
……………………………………………………………………….

1. คุณยังไม่รู้เลยว่ากลุ่มเป้าหมาย ว่าที่ลูกค้าของคุณ คือ ใคร ?
ถ้าคุณขายของให้ทุกคน คุณจะขายไม่ได้เลยซักคน
หรือ ขายได้แต่น้อยมาก
มันไม่ใช่แค่คุณบอกว่า “ขายให้ผู้หญิง อายุ 25-35 ปี ที่อยากหุ่นดี”
แล้วความต้องการของผู้หญิง 27 ปีที่โสด
กับ ผู้หญิง 27 ปีที่แต่งงานแล้ว
และผู้หญิง 27 ปีที่มีลูกแล้ว
แรงจูงใจที่อยากหุ่นดีของเขาเหล่านั้น คืออะไรคะ ?
อาจแตกต่างกันก็ได้ รูปแบบชีวิต สิ่งที่เขาสนใจ กิจกรรมชีวิตของเขาส่วนใหญ่เป็นแบบไหน
คุณว่า สื่อสารเรื่องราวไปหากลุ่มคนที่เป็น
“คนแก่” กับ “คนที่สนใจคนแก่” หรือ “ที่บ้านมีคนแก่” แตกต่างกันมั๊ยคะ ?
คุณควรตอบตัวเองหรือเคลียร์ตรงนี้ให้ชัดค่ะ
……………………………………………………………………….

2. ทำไมเขาต้องมาซื้อกับคุณ ทำไมเขาถึงต้องเลือกคุณล่ะ ?
สมมติว่าคุณตอบตัวเองข้อ. 1. เคลียร์แล้ว
คุณจะสามารถนำเสนอเนื้อหา ทำคลิป เขียนบทความ เอารูปที่ใช้ในเพจ
ในโพสต์ได้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายหรือว่าที่ลูกค้าได้ดีขึ้น กว่าคนที่ไม่ชัดในข้อ 1.

ทีนี้คำถามถัดไปคือ แล้วคุณมีอะไรที่แตกต่าง หรือต้องมาเลือกซื้อกับคุณล่ะ
โอเค ถ้าสินค้าชิ้นนั้น มันคือ คุณคนเดียวที่ขาย ที่อื่นๆ ไม่มี
แต่หลายคนที่เปิดเพจ หรือ ขายของออนไลน์ คือ
เป็นตัวแทน ขายสินค้าที่คล้ายๆ กับคนอื่น
หรือบางคนทำแบรนด์ของตนเอง แต่สินค้าประเภทเดียวกันของแบรนด์อื่นก็มี
คุณตอบตรงนี้ได้ชัดมั๊ยคะ ? ถ้าคุณบอกว่า “คุณราคาถูกที่สุด”
อันนี้คุณเสี่ยงมาก เพราะถ้าคุณเงินไม่หนา
ราคาจุดที่เลียนแบบและก็อบบี้ได้ง่ายมาก
แถมทำได้ดีกว่าได้แบบไม่กี่วินาทีเลยทีเดียว
โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์
คุณลองหาจุดเด่น หรือ ตอบตัวเองตรงนี้ให้ได้นะ ยิ่งได้เยอะยิ่งดี
แต่อย่างไม่ได้เลย พอมีซัก 1 ข้อ หรือซัก 3 ข้อมั๊ยคะ
ถ้าคุณเจอ คุณจะได้ย้ำในส่วนนั้น เพื่อให้เขาเลือกคุณ
นั่นแหละค่ะ แนวทางในการทำเพจของคุณอีกหนึ่งหนทาง

……………………………………………………………………….

3. คุณกำลังยึดติด กับอะไรบาง โดยยังไม่ได้มองในมุมลูกค้า
เช่น คุณฟันธงเลยว่า ฉันจะขายครีมลดริ้วรอยยี่ห้อนี่แหละ แบรนด์นี้แหละ
ฉันเลือกแล้ว ไม่รวย ไม่เลิก เพราะคนอื่นที่ขายเขารวยกัน
แต่คุณอาจจะไม่เคยหันมองในมุมอื่นๆ เลย เช่น
สินค้ามันดีกับลูกค้าจริงมั๊ย หรือมันดีแต่กับคุณ เพราะคุณได้กำไร/ชิ้นเยอะ
แต่สินค้านี้ไม่ได้ดีจริงๆ ไม่ได้ผล คุณรู้ เพราะคุณเคยลองใช้แล้ว
หรือคุณเองยังไม่รู้จักสินค้าเลย เพียงแต่เขาทำการตลาดมาว่า…
เปิดบิลวันนี้ ได้ทอง ได้นี่ นั่นนู้น แล้วคุณก็รีบกระโจนคว้าโอกาสนั้นไว้
หลังจากนั้น สต๊อกก็มากองที่บ้าน หรือไม่คุณก็รีบปล่อยของต่อ
ทำไงก็ได้ ผลักออกจากเราให้เร็วที่สุด
การทำแบบนี้คุณจะทำได้แค่รอบเดียว หรือสั้นมากๆ
หรือไม่คุณก็คิดว่า เป็นเพราะคุณยิง Ads ไม่เก่ง ค่า Ads แพง
แต่หารู้ไม่ มันอาจจะเป็นจากข้อ 1-3 เลยก็ได้
……………………………………………………………………….

เพราะคุณไม่รู้จะขายใคร
เพราะคุณไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องเลือกคุณ
เพราะคุณค่า สินค้า /บริการของคุณ มันแก้ปัญหาให้ใคร
……………………………………………………………………….

ความมุ่งมั่นเป็นเรื่องดีนะคะ แต่ถ้าคุณมีเพียงความมุ่งมั่น
แต่คุณไม่มีความรู้ หรือ ไม่พัฒนา ปรับต่อ
“คุณจะก็จะเป็นแบบเดิม”
คุณเลือกได้นะคะว่า
“คุณจะก็จะเป็นแบบเดิม”
หรือ คุณจะเพิ่มเติมพัฒนาตัวเองต่อ เพื่อให้ “คุณได้ก้าวไปอีก Step”

……………………………………………………………………….

ขอสรุปอีกครั้งนะคะ สำหรับคนที่ติดปัญหา
เปิดเพจไว้ แต่ไปต่อไม่เป็น ทำยังไงดี ?
คุณลอง Checklist ตัวเองดูว่าคุณขาดข้อไหน
หรือติดอะไร
เพราะคุณไม่รู้จะขายใคร
เพราะคุณไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องเลือกคุณ
เพราะคุณค่า สินค้า /บริการของคุณ มันแก้ปัญหาให้ใคร
……………………………………………………………………….

ลองปรับ 3 ข้อนี้ก่อนค่ะ คุณจะมีอะไรให้ทำต่ออีกเยอะเลยค่ะ
……………………………………………………………………….

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#เปิดเพจ
#เร่ิมต้นแบบมือใหม่ขายได้แบบมือโปร
#เปิดเพจไว้แต่ไปต่อไม่เป็น
#ขายของOnline

10 ข้อแตกต่าง ของ facebook แต่ละแบบ.………………………………………………….. ใครที่เคยสงสัยว่า…ทำไมบางอันทำได้บางอันทำไม่ได้เฟสบุคส่วนตัว : Facebook Profileเฟสบุคกลุ่ม : Facebook Groupเฟสบุคแฟนเพจ : Facebook Fanpage เข้าใจได้ใน 1 นาทีค่ะ …………………………………………………… ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่ : www.marketingmayri.com……………………………………………………….. #พี่เมริ#การตลาดเข้าใจง่าย#มือใหม่หัดทำเพจ#OnlineMarketing#ข้อแตกต่างเฟสบุคแต่ละแบบ

ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อเพจแบบไหน ถึงจะดี ถึงจะโดน

ไม่ได้เปิดเพจซักที เพราะคิดชื่อเพจดีๆ ไม่ออก

เพจสะเปะสะปะ ไร้ทิศทางมากเลย

ใครที่ติดปัญหาแบบที่ว่ามานี้ ลองไปฟัง Podcast มือใหม่ ตั้งชื่อยังเพจยังไงดี ได้เลยค่ะ

ไม่เก่งเทคโนโลยีแต่อยากทำออนไลน์

อยากทำการตลาดออนไลน์ แต่ไม่รู้จะทำได้มั๊ย

ไม่มีความรู้ด้านการทำออนไลน์ จะเริ่มต้นยังไงดี

ใครที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว เจอช่วงวิกฤติ Covid-19 ที่ผ่านมา ก็อยากมาทำออนไลน์เพิ่ม แต่ไม่เก่งเทคโนโลยี หรือ ไม่รู้ว่าจะเอามาช่วยแบบไหน ลองฟัง Podcast EPนี้ดูค่ะ

เพจปลิวเพราะเกาะกระแส

ระวังพจปลิวเพราะเกาะกระแส

ปัญหาเพจปลิว ไม่มีใครอยากเจอ แต่บางครั้งความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจนำปัญหาเพจปลิวมาให้เราได้

พี่เมริเชื่อว่า มีมือใหม่หลายๆคน ที่อยากให้เพจเราโต
และเราก็เคยได้ยินมาว่า….เกาะกระแสเลย
เขาฮิตอะไร ก็ใส่ # หรือ เล่นตามเขามีโอกาสเพจโต
…………………………………………………………………….

อันนี้พี่เมริไม่เถียงค่ะ
เพราะพี่เมริเองก็มีใช้เทคนิคพวกนี้ด้วยเหมือนกัน
แต่….
คีย์สำคัญที่อยากจะมาแชร์วันนี้
สำหรับมือใหม่ หรือ หลายคนที่กลัวพลาด
คือ รู้ว่าต้องทำ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำแบบไหน โพสต์แบบไม่ดูกฏหรือมัวแต่ห่วงเกาะกระแส
ไปๆมาๆ เพจปลิวได้ค่ะ
…………………………………………………………………….

พี่เมริขอให้ไอเดียสำหรับการเกาะกระแส
แบบป้องกันเพจปลิวคร่าวๆนะคะ
…………………………………………………………………….

ถ้ากระแสเหล่านั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ
การเมือง การเหยียดสีผิว ดูถูกเชื้อชาติ
ศาสนา เหยียดฐานะ
เลี่ยงได้ เลี่ยงดีกว่าค่ะ
(ยกเว้นคุณทำเพจด้านการเมืองอันนั้นคนละส่วนค่ะ)
เพราะมันอาจจะคนไม่ชอบ
เพจคุณถูกกด Report หรืออื่นได้ๆ
ถ้าเรามีอารมณ์ร่วมแบบสุดๆ
พี่เมริแนะนำว่า ไปในเฟสบุคส่วนตัวดีกว่าค่ะ
คือ เพราะไม่แน่ว่า….
ลูกเพจของคุณอาจจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคุณ
หรือ ลูกเพจของคุณเขาเห็นละอย่างกับคุณ
เดี๋ยวมันไม่ได้เป็นการเรียกลูกค้า แต่ไล่ลูกค้าค่ะ
และมันจะไม่ใช่เพจโต แต่เพจดาวน์แทนค่ะ

…………………………………………………………………….

แชร์เรื่องดราม่า หรือ หดหู่บ่อยๆ
อันนี้ไม่ได้มีผลกับเพจปลิวนะคะ
แต่มันจะทำให้บรรยายเพจหดหู่ ดูเข้าเพจนี้ทีไรอึมครึมทุกที
ยกเว้น คุณเป็นเพจแนวอกหัก หรือ แนวเหงา เศร้า ซึม
คือ ดูลักษณะเพจเราประกอบอีกที นอกจากกระแส
…………………………………………………………………….

หรืออย่างข่าวที่มันเป็นพวกภาพเปลือย ทารุณทางเพศ
อะไรแนวๆ นี้ พี่เมริคิดว่า
ถ้าคุณไม่ใช่เพจข่าว หรือ เพจแนววิเคราะห์ข่าว
คือ เป็นแบบเพจขายของ หรือ เพจความรู้
คือเอาง่ายๆ ว่า ไม่ได้ทำเพจเพื่อเป็นในลักษณะสื่อมวลชน
ก็แนะนำให้เลี่ยงอีกเช่นเดียวกันค่ะ
คือ บางอันมันไม่ได้ผิดแค่กฏเฟสบุคนะคะ แต่บางอันมันผิดกฎหมายด้วย
…………………………………………………………………….

ส่วนกระแสที่มันดูน่ารัก สนุกสนาน แล้วมันตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มลูกเพจเรา อันนั้นก็ทำได้เลยค่ะ มันช่วยให้เพจมีสีสัน
หรือเพิ่มโอกาสดันเพจให้โตได้ แต่ถ้าบางอันที่เป็นกระแส
แต่ว่า แหม ห่างไกลกับเพจเราหรือกับลูกเพจเรา
ก็ไม่ต้องเกาะทุกกระแสก็ได้จ้า
เลือกเอาที่เหมาะ

สรุปสั้นๆ แบบเข้าใจง่ายๆ คือ
อยากเกาะกระแสเพื่อช่วยให้เพจโต หรือ มีสีสัน ทำได้ค่ะ
แต่เลี่ยงที่เป็นการเหยียด แตกแยก รุนแรงต่างๆ
ถ้าอยากโพสต์แบบสุดๆ อดใจไม่ไหว ให้ไปใช้ช่องทาง
เฟสบุคส่วนตัวแทนดีกว่าจ้า
…………………………………………………………………….

เพราะเราอยู่บ้านของเฟสบุค
เราก็ต้องเคารพกฏในบ้านของเขาด้วยค่ะ
อย่าให้ความอยากโต หรือ อยากดังจนเกินไป
มาบดบังสายตา
หรือถ้าทำไปด้วยความไม่รู้ก็ยึดหลักคร่าวๆที่ว่า
อะไรที่ผิดศีลธรรม หรือดูรุนแรง ดูหมิ่น ดูแคลน
ก็ข้ามผ่านมันไป อย่าไปเกาะกระแสเหล่านั้น
(อันนี้พี่เมริหมายถึงกรณีที่เพจเราไม่ได้เป็นเพจที่ทำตัวเองเป็นสื่อมวลชนนะคะ)
…………………………………………………………………….
#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#มือใหม่หัดทำเพจ
#ป้องกันเพจปลิว
#ปั้นเพจให้โต
#OnlineMarketing
#DigitalMarketing

ดูวิธีทำแบบ Step by Step ตามรูปได้เลยค่ะ

สำหรับคนที่อยากโตทั้ง 2 ช่องทาง ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#EasyMarketing
#ปรับแต่งเพจ
#OnlineMarketing

พี่เมริได้คำถามหลังไมค์เข้ามาค่ะว่า
กำลังอยากจะขายของแต่ยังไม่กล้าลงเงินเยอะ
เพราะไม่มั่นใจ และเคยเจ็บมาเยอะ
อยากให้การเริ่มต้นครั้งใหม่ดีกว่าที่ผ่านมา
พอจะมีวิธีมั๊ยคะ

พี่เมริอยากจะแชร์ไอเดียในการเทสตลาด
หรือทดสอบเบื้องต้น ซึ่งพี่เมริก็ใช้วิธีพวกนี้บ่อยๆ
รวมถึงมือโปรที่เขาขายดีๆ หลายคนก็ใช้วิธีหล่านี้ทั้งนั้น
และบางคนก็ใช้วิธีที่ขั้นสูงขึ้นไปอีก
แต่ 4 ไอเดียเหล่านี้ พี่เมริว่าก็ใช้ได้ค่ะ

#ลองซื้อมาใช้เอง
ถ้ามีกำลังพอไหว สินค้าไม่แพงมาก ลองซื้อมาใช้ซักชิ้นแล้วตอบตัวเองว่ามันดีพอขายได้มั๊ย ชอบมั๊ย หรือ เฉยๆ (ถ้าเรามาขายจริงๆ ลูกค้าหลายคนถ้าประทับใจครั้งแรกก็มีโอกาสซื้อต่อ)

#ลองโพสต์หน้าเฟสส่วนตัว
ลองแชร์บอกเล่า ความประทับใจ ข้อดี แบบเหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง ว่าไปลองมาแล้วมันดียังไง บางครั้งเราจะเห็นโอกาสจากตรงนี้
(หรือลองถามว่าถ้าเราจะเอามาขายจริงๆ มีใครสนใจมั๊ย รับ Pre-Order)

#ลองเทสตลาดหน้าเพจ
ลองทำบทความ คอนเทนต์ เกี่ยวกับสินค้า โดยนำเสนอจุดเด่นในการแก้ปัญหาของลูกค้า หมั่นอ่านคอมเมนท์ ดูฟีคแบคส์ ว่าเสียงตอบรับเป็นยังไง (ลองไลฟ์จัดกิจกรรมแจก หรือ ไลฟ์เนื้อหาที่เกี่ยวกับสินค้าที่เราสนใจ เพื่อดูฟีดแบคส์)

#โพสต์ตัวอย่าง
ลองทำรูป กราฟฟิค หรือ ขอรูปจากเจ้าของแบรนด์ โพสต์เพื่อทดสอบตลาดก่อน เพราะจะช่วยให้เห็นทิศทางมากขึ้น
หรือลองให้เล่นเกมเดาราคา กิจกรมต่างๆ รับ Pre-Order จะช่วยให้รู้ว่าคนจะเทไปทางสีไหน ไซด์ไหน ราคาในใจเวลาเห็น หรือเราต้องปรับตรงไหนอีก ก่อนขายจริงจะได้ไม่สต๊อกมั่วๆ

รวมถึงยังสามารถไปดูในพวกกระทู้พันทิป
เซิร์ทในกูเกิล ว่าคนเขาติดปัญหาอะไร
แล้วสิ่งที่เราจะเอามาขาย มันจะช่วยคนกลุ่นนี้ได้มั๊ย
แล้วทำไมสินค้าอื่นๆ หรือเจ้าอื่นๆ ที่เขาขายกันอยู่
แต่คนก็ยังมาถามอยู่อีก
นั่นมันจะเป็นสัญญาณว่า มีความต้องการ
แต่มันยังไม่ตอบโจทย์ หรือ ยังมีมุมอื่นๆ ช่องว่างอื่นๆ
ที่เราจะขึ้นไปทำตลาดได้
เราจะได้เริ่มต้นแบบมีทิศทางค่ะ

ลองใช้เทคนิคบนโลกออนไลน์จากในเพจ ในเฟสบุคส่วนตัว
หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ มาช่วยนะคะ
เพื่อให้คุณจะได้รู้ว่าสินค้าที่คุณจะเอามาขาย
มันจะพอเป็นไปได้มั๊ย

ลองเอาไปใช้กันนะคะ

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#มือใหม่หัดทำออนไลน์

มือใหม่หลายๆคน บอกพี่เมริว่า..ติดปัญหาเรื่องทำคอนเทนต์มากๆ เลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะโพสต์ด้วยภาษาแบบไหนกับลูกเพจดี
คือ ส่วนใหญ่มันเป็นศัพท์เทคนิคทั้งนั้นเลยค่ะ

ผมเปิดเพจมานานแล้วแต่แทบไม่มีใครทักมาเลย พี่ว่าผมควรปรับตรงไหนดี

มันพอจะมีวิธีขายคอมหรือสื่อสารง่ายๆบ้างมั๊ยครับ ผมงงมากเลยว่า ทำไมลูกค้าผู้หญิงคุยอยากกว่าผู้ชาย

บางส่วนที่พี่เมริได้รับคำถามมาค่ะ แล้วพอลองเข้าไปดูเพจก็เจอปัญหาหลักๆ คล้ายกันคือ ภาษาที่ใช้สื่อสารกับลูกเพจ

เป็นไปได้ค่ะ ที่ในเพจของเราจะมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง
และเป็นไปได้อีกเหมือนกันที่ในเพจๆ เดียวกัน
จะมีทั้งคนที่เป็นสายแข็งชอบอ่านแบบจริงจัง
กับสายรวบรัดตัดความ ขอแบบสั้นกระชับ เอาเร็วๆ เข้าใจง่าย
บางคนก็มาสายเทคนิคต้องดูทางการนิดๆ

ไม่ผิดนะคะที่ลูกเพจของเราจะมีหลากหลายกลุ่ม
ทางแก้มันเลยมีแนวทางแบบนี้ค่ะ
……………………………………………………………………..

1. นึกหน้าคนที่เราต้องการจะสื่อสารด้วยในโพสต์ๆนั้น
หรือคอนเทนต์นั้นๆ เป็นหลัก หรือแม้แต่ในอินบ๊อกซ์ก็ตาม มันอาจจะมีคนกลุ่มอื่นมาอ่านก็ไม่เป็นไร. แต่เราเน้นการนึกถึงหน้าของคนนั้นเป็นหลัก

เช่น นึกถึงว่าเราต้องการสื่อกับผู้หญิง ที่กำลังสนใจหารายได้บนโลกออนไลน์ และอยากได้คอมพิวเตอร์ ซักเครื่องหนึ่ง แต่เธอไม่ค่อยรู้เรื่องสเปคซักเท่าไร. เราสามารถใช้พาดหัว และรูปภาพที่ให้เธอเข้าใจด้วยภาษาง่ายๆ

#คอมพิวเตอร์สำหรับแม่ค้าออนไลน์ สายชอบไลฟ์ ต้องมี
เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานผ่านโปรแกรม OBS หรือไลฟ์สดบ่อยๆ
แทนที่จะเริ่มต้นพาดหัว หรือ ข้อความในรูปเป็นสเปคคอมแบบงงๆ
Ram เท่าไร itel i นู่นนี่นั้น
เพราะเธออาจจะคิดหนักและถามหนักกว่าเดิมอีก

ในขณะที่ ถ้ากำลังต้องการสื่อกับพนักงานไอที
ที่ต้องการหาสเปคคอมให้ฝ่ายจัดซื้อทำเรื่องขออนุมัติงบประมาณ
คุณทำโพสต์หรือคุยอินบ๊อกซ์
แบบภาษาเทพกับเขาเหล่านั้นได้เลย
ใช้ภาษาเดียวกันคุยกันได้เลยค่ะ
……………………………………………………………………..

2. เรื่องเดียวกัน ทำโพสต์หลายๆ แบบ
เช่น ภาษาแบบทั่วไปที่เข้าใจได้ สั้น กระชับ ฉับไว
สำหรับกลุ่มลูกเพจที่อ่านน้อย ต่อยหนัก แบบชอบไหลไวๆๆ
กดไลค์ กดแชร์ ไว้ก่อน คล้ายวัยรุ่นดู IG

หรือ เขียนแบบเจาะลง สำหรับสายแข็ง หรือ
โพสต์ที่ต้องการโชว์ของของเรา
ปล่อยพลังกับโพสต์นั้นได้เลย

ส่วนนี้ต้องลองวิเคราะห์ลูกเพจตัวเองอีกทีนะคะ
เพราะแต่ละเพจไม่เหมือนกัน
สามารถไปดูได้ที่ข้อมูลเชิงลึกเพจ
……………………………………………………………………..

3. ปรับภาษาให้ดูเหมาะกับลูกเพจ หรือ คนที่เราต้องการสื่อสารด้วย
ทั้งนี้ดูลูกเพจของเราเป็นหลัก และวัตถุประสงค์ของการทำโพสต์นั้นๆ
เช่น พี่เมริต้องการคุยกับมือใหม่ที่กำลังอยากขายของออนไลน์
พี่เมริก็ปรับมาใช้คำว่า “ลูกค้า” หรือ “ว่าที่ลูกค้า”

ในขณะที่ถ้าเป็นภาษาวิชาการ หรือแบบถูกต้องในแต่ละบริบท
คือ Target Market / target audience / potential customer

ซึ่งหากเป็นนักวิชาการหรือนักการตลาด ถ้ายังไม่ซื้อของจริงๆ
จะไม่เรียกว่า “ลูกค้า” ถ้าอย่างนี้
งานวิชาการอาจจะตีตก หรือ คิดว่าเรามั่ว
แต่พี่เมรินึกถึงข้อ 1 ที่ว่า นึกถึงหน้าคนที่เราจะสื่อสารด้วยเป็นหลักค่ะ

แต่ถ้าคุณหวั่นใจกลัวใครเข้าใจผิด หรือ อยากให้มันดูเป็นทางการขึ้น
หรือแม้แต่ว่า เพื่อประโยชน์ในการหาข้อมูลต่อสำหรับลูกเพจ
เราสามารถใช้ ศัพท์เทคนิค แต่ลองเพิ่มคำอธิบาย
หรือ เป็น : หรือ ทำเป็น ( ) เพิ่มเติม หรือ ลองเทียบเคียงกับสิ่งอื่นๆ
หรือให้ แหล่งอ้างอิง ให้เครดิตที่มาไว้ด้วยก็ได้ค่ะ
ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
……………………………………………………………………..

4. หลีกเลี่ยง การเหยียด ที่สุ่มเสี่ยงเกิดดราม่า
ถ้าอะไรที่มันดูสุ่มเสี่ยงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
หรือดราม่าจ๋าๆ คุณอาจเลี่ยงการโพสต์
แต่ใช้วิธีการทักแชท หรือ คุยในอินบ๊อกซ์แทน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องที่ Sensitive
อย่างจน รวย ถึงคุณจะขายของแพง ในเพจดูไฮโซ
ก็ไม่ควรใช้คำพูดเหยียดกลุ่มคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย
หรือพอคุณดัง มันอาจจะมีคนมั่นไส้ คอมเม้นท์เสียๆหาย
ถ้ามีคนมาเกรียนใส่ แบบจัดๆ
คุณใช้การบล็อค หรือ ซ่อนคอมเม้นท์เหล่านั้น
จะละมุนละม่อมกว่า การใช้ภาษาที่ดูสุ่มเสี่ยงดราม่านะคะ
พี่เมริยังหมายถึงเสี่ยงเพจปลิวด้วยค่ะ

……………………………………………………………………..

พี่เมริอยากให้เข้าใจธรรมชาติของเฟสบุคอยู่อย่างนึงนะคะ
ถึงแม้จะเป็นเพจ ที่ดูมีความเป็นทางการกว่า เฟสบุคส่วนตัว
แต่มันก็คือ สื่อที่เน้นการสื่อสารแบบคนกับคน
คือพูดสั้นๆ ว่ามันเป็นสื่อ Social Media
ความเป็นกันเองจะมีกว่าช่องทางที่เป็นทางการ
เมื่อเทีบบกับเว็บไซต์
การทำให้เพจดูมีชีวิตชีวา
ด้วยภาษาที่คุณคุยกับลูกเพจ แบบไม่ทางการจนเกินไป
หรือมีหยอกล้อกันบ้าง เพื่อความเชื่อมโยง
พี่เมริว่ามันดูไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรนะคะ
อยู่ในวิสัยที่ทำได้ค่ะ

……………………………………………………………………..

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#ปรับเพจ
#FacebookMarketing
#SocialMedia
#OnlineMarketing
#EasyMarketing

อยากเพิ่มลิงก์ Line OA ในโพสต์ ง่ายๆ
อยากให้ลูกค้าแอด Line OA เลยอยากแปะลิงค์ไว้ที่เพจ
………………………………………………………….

บอก Premium ID Line OA ไปแล้ว
ลูกค้าพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกหาไม่เจอ
ลูกค้าบอกหา Line OA ยากจัง
ทำโพสต์ขายและอยากให้เขาทัก Line OA เลย คลิกลิงก์เดียวง่ายๆ

พี่เมริมีวิธีมาบอกค่ะ วิธีง่ายๆ เลย สำหรับคนที่มี Premium ID แล้ว เราสามารถใช้วิธีการคือ
https://line.me/R/ti/p/ ตามด้วยPremium ID ของเรา เช่น https://line.me/R/ti/p/@Mariluya

เพียงแค่นี้เมื่อมีการกดคลิกลิงก์ มันก็เด้งมาเพิ่มเพื่อนให้แล้วค่ะ
Premium ID ปีละ 12เหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 450 บาท/ปีค่ะ

หรือถ้าใครยังไม่มี Premium ID
ก็ใช้วิธีการคัดลอกลิงก์มาใส่ไนโพสต์ ในเพจ ได้เลยค่ะ
โดยไปที่แอพ Line OA ของเรา
เลือกบัญชีที่เราต้องการ
จากนั้นไปที่ Home (รูปบ้าน)
เลือกเพิ่มเพื่อน
แล้วจะเจอทั้ง QR Code
แชร์ให้เพื่อนทางไลน์
คัดลอกลิงก์
ทางเฟสบุคส์
อีเมลล์
และอื่นๆ อีก
เราสามารถส่งตามช่องทางนั้นๆ
หรือเลือก ลิงก์ แล้วกดคัดลอกลิงก์
เก็บไว้ใช้งานได้เลยค่ะ

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#EasyMarketing
#วิธีเพิ่มลิงก์Line
#LineOA
#ปรับเพจให้ดูดี