พี่คะ หนูก็เขียนตามสูตรที่เคยเรียนมาเขาบอกให้ขึ้นด้วยปัญหาของลูกค้า

เขาบอกให้ขึ้นด้วยโปรโมชั่น

ทำไม หนูยังขายไม่ได้คะ ?

พี่เมริก็เป็นคนนึงที่มีปัญหากับการเขียนคอนเทนต์ค่ะ โดยเฉพาะโพสต์ขายหรือคอนเทนต์ที่เน้นขาย แต่ตอนสมัยก่อนโชคดีอยู่อย่าง ตอนที่เริ่มขายของออนไลน์ใหม่ๆคนขายยังไม่เยอะมาก ทำไปแบบงงๆ ก็ยังขายได้ยิงแอดง่อยๆ ก็เห็นกระจาย แต่.. ณ ตอนนี้ มันต่างออกไป วิธีการหรือเทคนิคบางอย่างเลยต้องเรียนรู้เพิ่มเติม

พี่เมริขอเอาประสบการณ์ กับส่ิงที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมมาแชร์ให้กับเพื่อนๆ ที่เป็นมือใหม่ หรือกับคนที่ติดปัญหาการทำคอนเทนต์หวังว่าจะช่วยลดเวลาในการลองผิดลองถูกและช่วยให้ได้เจอคอนเทนต์นางฟ้าที่ช่วยให้คนอยากซื้อได้ง่ายขึ้น

บอกก่อนนะคะ สุดท้ายยังไงมันก็ต้องมีการเทสตลาดเทสแอด หรือ เทสคอนเทนต์ แต่เราจะได้รู้ว่าเทสแล้วยังไงต่อหรือจะเอาตัวไหนไปเทส เขียนอันเดียวแล้วขายได้เลย เทพมากกกมือใหม่อย่าได้หวั่นไหว หรือตกใจ การเทสคือเรื่องปกติค่ะ(แต่ไม่ใช่เทสแล้วไม่รู้จะปรับตรงไหนต่อ หรือไม่รู้จะเทสอะไรนะคะ)

ไอเดียการเขียนคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อ

แบบที่น้องคนนึงทักมาถามพี่เมริแบบด้านบน เป็นวิธีที่ใช้ได้เลยค่ะว่าให้เรา

“เริ่มด้วยปัญหาของลูกค้า”บอกทางแก้ไขหรือ ผลลัพธ์

“แล้วมีราคาหรือข้อเสนอสุดห้ามใจ”

จริงๆ มันมีหลายสูตรการทำคอนเทนต์และการเขียนโพสต์ขาย

แต่คำถามคือ ทำไม หนูยังขายไม่ได้?

แก่นหลักของมันคือ “คนตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์”

และบ่อยครั้งมักจะหาเหตุผลมาสนับสนุน

“ให้ตัวเองรู้สึกดี”หรือ “รู้สึกคุ้ม”

คุ้มในที่นี้มันไม่ได้ต้องเป็นคุ้มในแง่ตัวเงินเสมอไปแต่มัน “คุ้มใจ” “คุ้มที่ได้ครอบครอง” ก็ได้นะคะ

พี่เมริให้ไอเดียในการทำคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อเสริมเข้าไปแบบนี้ค่ะ“รู้สึก”

ไม่ว่าจะ “รู้สึก” อะไรก็ตามนั่นแหละคือ Keyวันนี้ เราได้ใส่ “ความรู้สึก” ลงไปในคอนเทนต์ของเรารึยังคะ ?

พี่เมริหมายถึง “ตั้งแต่รูป/คลิปเลยนะ”มันสื่อความรู้สึกได้ดีมั๊ย ?

จากนั้น ตัวหนังสือ หรือ ข้อความในรูป/ในคลิป

และอันดับต่อมาคือ ในแคปชั่นหรือใตอนอธิบายรายละเอียด

มีหลายคนบอกว่า “อย่าเอาราคาขึ้นต้น หรือ อย่าเพิ่งบอกราคา”

พี่เมริพบว่า “ไม่จริงเสมอไป” ถ้าสินค้า /บริการ / แบรนด์นั้น เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว

แบบนี้อาจจะใส่ราคาหรือข้อเสนอลงไปในรูปเลยก็ได้ค่ะไม่จำเป็นต้องรอมาใส่ในโพสต์ขาย

แต่ของบางอย่างมัน ก็จะเป็นต้องอธิบายก่อน แล้วค่อยบอกราคา “เพราะยังไม่เป็นที่โด่งดังแพร่หลาย หรือเพราะมันเป็นแบรนด์ของเรา”

อย่าเพิ่งเหมาว่ามีโลโก้ หรือ มีชื่อ คือมีแบรนด์นะจ๊ะ

เราขายเอง เราคลุกคลี เราก็คิดว่ามันดี มันมีแบรนด์แต่คนอื่นๆ

โดยเฉพาะว่าที่ลูกค้า หรือ คนใหม่ๆ เขาไม่ได้อินจัดกับมันขนาดนั้นจ๊ะ

คอนเทนต์สำหรับสินค้า /บริการ กลุ่มนี้มันเลย ต้องมีคอนเทนต์ที่ทำให้เห็นปัญหา หรือ สิ่งที่เขาปรารถนา จะเป็น จะมี

พร้อมทางออกจากสิ่งที่เรานำเสนอ ณ ตรงนี้แหละ ที่พี่เมริบอกว่า “อารมณ์ความรู้สึกต้องมา”

อย่าบอกแค่คุณสมบัติ เพราะมันไม่ทัชอารมณ์ความรู้สึก

แต่ใช่ว่าจะห้ามบอกว่าคุณสมบัติมันคืออะไร แค่คีย์ที่อยากจะฝากไว้ อย่าลืมใส่อารมณ์เข้าไป

ส่วนถ้าหวังขายได้ในคอนเทนต์นั้น ทันที

ราคาและข้อเสนอโดนใจคือตัวกระตุ้นที่เร่งอารมณ์ที่เราเพิ่มเข้าไป

แต่ถ้าคอนเทนต์นั้นๆ เลี้ยงคนเอาไว้ก่อน ยังไม่ต้องใส่ไปก็ได้ค่ะ

ใส่ช่องทางให้เขาติดต่อง่าย หรือ ขอช่องทางติดเขากลับไว้ แทนได้เลยค่ะ

ที่ไล่มาทั้งหมดทั้งมวลถึงไอเดียและเทคนิคการทำคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อว่า

“อย่าลืมทำให้เขาเกิดอารมณ์” ไม่ว่าจะตั้งแต่ภาพ หรือ ข้อความก็ตาม

** เพราะโลกออนไลน์ ประสาทสัมผัสที่ขาดไป คือ การสัมผัสและลิ้นใส่ใหญ่

คือ เน้นตา กับ หู”

**จะทำให้เขาเกิดอารมณ์กับความรู้สึกว่าอยากแค่ไหน ต้องไม่ลืมคิดถึงจุดนี้ด้วยค่ะ

แต่ Key ที่ใหญ่และสำคัญไม่แพ้ เรื่อง “ทำให้เเกิดอารณ์ความรู้สึก”

คือ……“อำนาจการซื้อ”

ไม่แน่ว่า ที่คุณทำมาทั้งหมด มันอาจจะถูกต้อง ถูกทางแล้วแต่กลุ่มเป้าหมาย

“ดันไม่ใช่คนที่มีอำนาจในการซื้อ”

หรือ วิธีการจ่ายเงินของคุณ “ไม่ช่วยสนับสนุนให้เขามีอำนาจในการซื้อ” นั่นก็เป็นเรื่องที่อย่าลืมมองข้ามนะคะ

  • การเก็บเงินปลายทาง
  • การผ่อนชำระ
  • การจ่ายผ่านบัตรเครดิต
  • การให้มัดจำก่อน
  • การให้ไปทดลอง

ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในวิธี ที่ช่วยเพิ่มอำนาจการซื้อ หรือเพิ่มความรู้สึกของการได้เป็นเจ้าของมากขึ้น

ลองเอาไปปรับใช้ควบคู่กับไอเดียทำคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อได้นะคะ

มือใหม่ทั้งหลายได้ไอเดียนะคะ

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่ FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://lin.ee/X4Fs33w

#พี่เมริ #การตลาดเข้าใจง่าย #ออนไลน์มือใหม่ #ทำคอนเทนต์ #ContentMarketing #ไอเดียทำคอนเทนต์ #เทคนิคทำคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อ

2Pisit Kamkul และ อีก 1 คนแชร์ 1 ครั้งถูกใจแสดงความคิดเห็นแชร์

ไม่รู้จะโพสต์อะไรดี มีวิธีช่วยมั๊ย ???

หลายคนที่เคยตามเพจพี่เมริหรือเคยอ่าน Ebook เริ่มต้นแบบมือใหม่ขายได้แบบมือโปร น่าจะเคยเห็นคำแนะนำที่ว่า พี่เมริแนะนำให้โพสต์ทุกวัน

ช่ายค่ะ นั่นหมายถึงในช่วงแรกๆ เพราะพี่เมริแค่อยากให้คุณฝึกนิสัย สร้างวินัยหรือ ให้เกิดแรงขับเคลื่อนอะไรบางอย่างเพื่อให้เราได้ลงมือทำและปรับตัวต่อไปเช่น ทำแล้วเงียบ จะได้ปรับหรือติดเรื่องหัวข้อไม่โดน ติดเรื่องทำรูปไม่เก่ง หรือติดหมดเลย 555เราจะได้จะรู้

และคุณก็อาจจะเกิดคำถามในใจว่า “เห็นบางคนไม่โพสต์ทุกวันเขาขายได้ก็มี”

“จริงค่ะ” มีอยู่ไม่จำเป็นต้องโพสต์ทุกวันก็ได้ เพราะบางคนทำคอนเทนต์ดีมากๆ คนก็ยังมาดู มาอ่าน

หรืออีกนัยนึง “คุณอาจไม่เห็นหลังบ้านเขาก็ได้”

เขายิงโฆษณา ทำดาร์กโพสต์ ซื้อคำให้คนค้นหาเจอ หรืออะไรต่อมิอะไรมากมาย ใช่ว่า เขานิ่งเงียบไปหรือเขาอาจจะสร้างตัวตนในเฟสบุคส่วนตัว

ใน IGใช่ว่าที่เพจเขาเงียบกริบ แล้วจุดอื่นๆ เขาเงียบตามนะคะหรือถ้าเขาเงียบไปจริงๆ

ก่อนขายเขาต้องมาปลุกเพจหรือขยับช่องทางบางอย่างเพื่อให้คนยังรู้ว่า…ยังเปิดขายหรือไม่ได้ปิดกิจการไปนะจ๊ะ

พี่เมริเห็นหลายที่ ที่เคยให้คำปรึกษาไปพนักงานลาออก เพจก็หายเงียบ จนกว่าจะได้คนใหม่มาดูแล แบบนี้ปัญหาคลาสิคเลยทีนี้

ถ้าเราทำคนเดียว หรือ จังหวะลูกน้องลาออกหรือจังหวะพลังงานตกต่ำ ทำให้ไอเดียตีบตัน

พี่เมริให้ทางออกสำหรับการทำคอนเทนต์ ไว้ 3 แนวแบบนี้นะคะ

แต่ก่อนไปถึงแนวทางที่ว่า…ให้นึกถึงแก่นหลักเสมอว่า…

ไม่ว่าจะโพสต์นั้นจะขายหรือไม่ขายก็ตามแต่สุดท้าย

มันจะส่งผลกลับมาหาเราในเชิงธุรกิจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ถ้าคิดไม่ออกให้ลอง มิกซ์แอนด์แมทซ์ สิ่งต่อไปนี้

1. กระแส

สั้น ไว ได้อะไรเกี่ยวข้องกับเพจเรา หรือลูกเพจเราลองดูว่า กระแสหลายอย่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นบางครั้งสามารถเอามาเชื่อมโยงกับสินค้า บริการหรือตัวตนของเราก็ลองเอามาเล่า เอามาเล่นดูนะคะ

2. คอนเทนต์เหนือกาลเวลา (บางคนใช้ศัพท์ว่า Everygreen Content)

ตรงข้ามกับแบบแรกเลยค่ะ เนื้อหาแบบนี้จะไม่ขึ้นกับเวลา (โดยส่วนใหญ่)เป็นสิ่งที่คนอ่าน สนใจ หรือ เป็นปัญหาเรื่อยๆ ไม่หวือหวา แต่ถ้าทำดี ก็มีโอกาสใช้ได้ยาวหรือเอามารีโพสต์ใหม่ได้เนืองๆ ถ้าใครทำดี ติด SEO นี่ยิ่งช่วยเข้าไปใหญ่ส่วนใหญ่มักจะเป็นข้อเท็จจริง งานวิจัย รีวิว บทสัมภาษณ์ How to Check listคำถามที่เจอบ่อยๆ ไกด์ไลน์ต่างๆเราอาจจะมาเล่าในมุมใหม่ หรือ รวบรวมไว้ ก็ได้ค่ะ

3. คือ 1 + 2

เอากระแส + เหนือกาลเวลาหรือ เล่นเป็นฤดูกาลอันนี้เป็นการนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ หรือเพิ่มความน่าสนใจด้วยกระแสหรือเอามาเล่าเมื่อถึงเทศกาล ฤดูกาลนั้น ๆ เช่น ช่วงสอบราชการ ช่วงลอยกระทง ช่วงปีใหม่ คริสต์มาสต์ฟังดูแล้วงงไม่เป็นไรนะคะ คิดง่ายๆ ว่าจะเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ยังไงให้ดูน่าสนใจ หรือ น่าติดตามขึ้น ด้วยการพ่วงกระแส หรือ ช่วงเวลา หรือ ฤดูกาลต่างๆ เข้าไปเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ เรายังสามารถเปลี่ยนจาก 3 แบบ ด้านบน เป็นย่อยๆ ได้อีกเป็นเล่าแบบสั้น กับ แบบยาว

โดยเอาไปประยุกต์แตกย่อยในช่องทางอื่นๆ เช่นเล่าสั้นก็ไปใน Tiktok IG เพจ หรือ ใน YouTube แบบ Shrot

เล่ายาว ก็ เพจ เว็บไซต์ Youtube Blog liveเพราะในการเล่า การโพสต์ ก็ยังทำได้หลายรูปแบบ

แต่เอาเป็นว่า พี่เมริให้ไอเดียไว้ ไม่จำเป็นต้องใช้หมดทุกอันก็ได้นะคะอย่างกระแสหรือหัวข้อที่เป็นข่าวช่วงนี้ เช่น คิม ซอนโฮหนึ่งจักรวาล หรือใกล้ๆ จะถึงนี้ก็ เปิดประเทศ โรงเรียนเปิด ลอยกระทงฤดูหนาว 11.11 และอีกมากมาย เอาที่ใกล้เคียงและใช้ได้ ถ้าไม่มีกระแสที่เข้ากันก็ปล่อยผ่านไปเล่นแบบเหนือกาลเวลาเอาก็ได้นะจ๊ะมือใหม่ทั้งหลายลองดูนะคะอย่าเพิ่งท้อ เรื่องท้อให้ลิงถือก็พอตึ่งโป๊ะ พี่เมริ จบแบบเป๊กๆ นี่แหละนะ 555คิดถึงเหมือนเดิมคร่า

หรืออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ยังคิดไม่ออกอีก ลองดู 10 แหล่งหาไอเดียคอนเทนต์ ได้เลยนะคะ

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://lin.ee/X4Fs33w

#พี่เมริ#การตลาดเข้าใจง่าย #ออนไลน์มือใหม่ #ทำคอนเทนต์ #ContentMarketing #คิดคอนเทนต์ไม่ออก #มือใหม่หัดขาย

ทำออนไลน์ “คิดว่าจะง่าย”แต่สุดท้ายก็……….

คำตอบของคุณเป็นยังไงกันบ้างคะ หลังจากที่ลองขึ้นมาทำออนไลน์กันจริงจังๆโดยเฉพาะมือใหม่ หรือใครที่คิดว่า ตัวเองไม่เก่งเทคโลยีทำออนไลน์ คิดว่าจะง่ายแต่สุดท้ายก็ “ง่าย”เหมือนอย่างที่คิดรึเปล่าคะ หรือว่า ยากssss เดิม S ไป. 48 ตัว

สำหรับพี่เมริเองแล้ว รู้สึกแบบนี้ค่ะตอนเริ่ม “ง่ายค่ะ”เปิดเพจแป๊บเดียวเองเปิดช่องยูทูปก็แป๊บเดียวเปิด LINE OA ก็แป๊บเดียวทำเว็บไซต์ อันนี้ใช้เวลานานหน่อย

แต่!!! พอทำไปแล้วซักพักนี่แหละค่ะ ก็พบความจริงที่ว่า ….

“เราหยุดอยู่กับที่ไม่ได้เลย”มีส่ิงที่ต้องเรียนรู้เยอะมากกกก เช่น พอเปิดเพจเสร็จต้องทำรูปสวยๆ หรือ ทำโพสต์ยังไงให้ดึงดูด ?ทำคอนเทนต์แบบไหนดี คนถึงจะอยากซื้อ คอมเม้นท์หรือแชร์ออกไป ?คิดไม่ออก คอนเทนต์ตัน มันไม่รู้จะเขียนอะไรยิงแอด ต้องไปปรับตรงไหน อุ๊ย แอดไม่ผ่าน ติดต่อใครล่ะทีนี้ แก้ยังไงดีทำคลิปไปแล้วคนไม่ดู อันนี้คลิปไม่โอ หน้ามืด หน้าซีด หลายสิ่งมีคนทักมา สนใจ แต่ไม่ซื้อ เป็นเพราะอะไรและอีกหลายเหตุการณ์บนโลกความจริงที่ได้เจอเมื่อทำออนไลน์อย่างจริงจัง

ใครเป็นแบบเดียวกัน หรือ รู้สึกแบบนี้ มาแชร์กันใต้โพสต์นี้นะคะ จะได้เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆเพราะสิ่งที่พี่เมริอยากจะบอกคือ…..“มันเป็นเรื่องปกติ ที่เราต้องเจอ”จะว่ายากมั๊ย ก็ไม่ถึงกับยากนะคะ“เพราะมันเรียนรู้ได้”ถ้าอันนไหน ที่ยังไม่พร้อมแต่ต้องใช้ ก็จ้างเขาค่ะแต่สิ่งที่พี่เมริได้เรียนรู้ และอยากจะแชร์เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ทั้งหลายหรือคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งเทคโนโลยีหรือกำลังติดปัญหาอย่างเดียวกัน

ก่อนอื่น คือ ตั้งสติ อย่าเพิ่งตกใจจนเราลน หรือ เอ่อล้นว่า…“โอ๊ยยย เยอะแยะไปหมด ตามไม่ทัน”แล้วก็ล้มเลิกไป

ประเด็นคือ วันนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นมาอยู่บนโลกออนไลน์แล้วคนเขาเจอคุณง่ายมั๊ยคะ ?แล้วคนที่ทำธุรกิจเดียวกับคุณ เขาหาง่ายกว่ามั๊ยคะ หรือมีโอกาสถูกเจอง่ายกว่ามั๊ยคะ?ถ้าสินค้าหรือบริการของคุณไม่ได้ เฉพาะมากๆๆ หรือมีคุณคนเดียวที่ทำได้ต้องคุณเท่านั้นไม่ว่าไกลแสนไกล หรือ ถามใครๆ ก็บอกได้ว่า “คุณอยู่นี่นะ”ใน OTO2021 เรียกสิ่งที่นี้ว่า ZMOT พี่เมริพูดได้ว่า “ออนไลน์สำคัญมากกกกก” อยากจะเติม ก. ไปอีก 47 ตัวกันเลยทีเดียว

ดังนั้น….“ไม่ว่าวันนี้คำตอบของคุณ”กับคำถามที่ว่าทำออนไลน์ “คิดว่าจะง่าย”แต่สุดท้ายก็……….

ง่ายหรือยากแต่ถ้าคำตอบสุดท้าย“มันต้องทำ” เพราะมันคือ ช่องทางรายได้หรือความอยู่รอดหรืออนาคตของคุณก็ไม่เหตุผลใดๆ ที่เราต้องล้มเลิกไปค่ะ

แต่เราเพียงต้องปรับวิธีคิด วิธีการ และรับมือถ้าเรารู้สึกว่า มันเยอะไป เรียนรู้ไม่ไหว“ก็แบ่งเป็นส่วนๆ เรียนรู้ให้ทำได้ ให้ได้เริ่มไปก่อนก็ได้ค่ะไม่ต้องเก่งหรือแอดว๊านซ์ทั้งหมดไปซะทีเดียว”คุณจะปีนหิมาลัยให้ไปถึงยอดเขาในวันเดียวได้อย่างไร ?การขึ้นมาทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ก็แบบเดียกันค่ะ(**ถึงแม้คุณจะไม่ได้ทำออนไลน์ 100% ก็ตาม)

จ้างคนอื่นทำบ้าง ตัดมันออกไปบ้าง วางเป็นแผนที่ต้องทำในวันข้างหน้าบ้างศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมคุณจะค่อยๆ ขยับเก่งขึ้น เก่งขึ้นยังไงมันก็ก้าวหน้ากว่าเดิมอยู่แล้วค่ะ

Brian Tracy บอกเอาไว้ในหนังสือ “กินกบตัวนั้นซะ”: Eat that frog!!“ระบุข้อจำกัด ทั้งภายในและภายนอก ทำไมฉันไม่ถึงเป้าหมายของฉันซักทีอะไรที่คอยฉุดรั้งฉันไว้”ไม่ว่าคำตอบของคุณจะเป็นอะไร ให้ลงมือทำกับมันทันทีทำอะไรซักอย่าง อะไรก็ได้ ขอแค่เริ่มทำเดี๋ยวนี้เลย

และเช่นเดียวกันค่ะไม่ว่าคำตอบสุดท้ายของคุณจะเป็นยังไงทำออนไลน์ “คิดว่าจะง่าย”แต่สุดท้ายก็……….

ถ้ามันสำคัญสำหรับคุณจงลงมือทำกับมันทันทีทำอะไรซักอย่าง อะไรก็ได้ขอแค่เริ่มเดี๋ยวนี้เลยแล้วคุณจะพบคำตอบและประตูบานถัดไปจะรอคุณอยู่

ถ้ามีประโยชน์ “แชร์ได้เลยคร่าาาา”

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://lin.ee/X4Fs33w

YouTube: https://bit.ly/3bgEy5j

#พี่เมริ #การตลาดเข้าใจง่าย #ZMOT #เริ่มต้นแบบมือใหม่ขายได้แบบมือโปร #ธุรกิจออนไลน์ #ขายของออนไลน์ #การตลาด #คอนเทนต์ #Content #มือใหม่หัดขายออนไลน์

3 ขั้นตอน สร้างโพสต์สวยๆโดยที่ไม่ต้องมีสกิล

เคยได้ยินคำพูดที่ว่า 

“คนบนโลกออนไลน์ใจร้อนกว่าปกติมั๊ยคะ ?”

ใครอยากขายดีต้องไว เร็ว แร๊งส์

แหมมม ฟังแล้วก็นึกว่า กำลังดู fast and furious 

ใจนึงพี่เมริก็แอบคิดว่า มันจะขนาดนั้นเลยเหรอ 

มีใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคิดว่าจริงมั๊ยคะ ?

………………………………………………………………..

พี่เมริคิดว่า “มีส่วนจริงอยู่บ้างค่ะ แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด”

ลองนึกถึงตัวเองก็ได้ค่ะ

เวลาเราอยากได้ของซักขิ้น

เราไปเจอ โพสต์ๆ นึง

เราทักร้านไปกี่ร้าน รอนานแค่ไหน

ถ้ารอแล้วเขาไม่ตอบไปร้านอื่นเลยมั๊ย

หรือทักไปหลายๆ ร้านไว้เลย

ตอบช้าชิมิ “บายจ้า” (ไม่ใช่กด Buy นะคะ แต่ บ๊ายบาย)

อาการเหล่านี้มันจะเป็นเมื่อเราอยากได้อะไรซักอย่างจริงมั๊ยคะ

………………………………………………………………..

แต่ถ้าจังหวะที่เราอารมณ์เพลินๆ ไม่ได้อยากได้อะไรล่ะ 

ไถเฟสบุคไปเรื่อย  หรือนั่งไล่ดู YouTube

บางทีเราก็ไม่ได้รีบร้อนขนาดนั้น

เผลอแป๊บเดียวผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว

ไหนว่าใจร้อนไง ทำไมมาหลงอยู่ในนี้ได้ตั้งนาน

555 พี่เมริก็เป็นจร้า เข้าใจเลย

แต่!!! คำถามคือ….

ไอ้ตอนอารมณ์เพลินๆ หรือ ไถไปเรื่อย

แว๊บแรกที่เราหยุดดู หรือจะเข้าไปอ่านอะไรซักอย่าง

หรือแม้แต่โดนยิงแอดมา 

ลักษณะของสิ่งที่เราหยุดดูมักจะเป็น…

โพสต์สวยๆ 

ปกแจ่มๆ 

ภาพโดนๆ 

หรือไม่ก็พาดหัวกระแทกใจ

สิ่งเหล่านี้มีส่วนให้เราหยุดง่ายขึ้นมั๊ยคะ ?

ก่อนที่จะกดเข้าไปอ่านคอนเทนต์ไหน

หรือกดเข้าไปดูวีดีโออะไร

นี่แหละค่ะ ปัญหาแรกๆ เลย สำหรับมือใหม่

ที่ไม่มีสกิล “อยากมีโพสต์สวยๆ” ทำยังไงดี

เพราะพี่เมริเอง เจอกับตัวเองอยู่บ่อยๆ ค่ะ

เนื้อหาคอนเทนต์ด้านในทำเกือบตาย

เพียรเขียน กลั่นกรองมาอย่างพิถีพิพัน

คนไม่ค่อยกดอ่านซะอย่างนั้น

เพราะภาพและพาดหัวไม่โดนใจ 

หรือโพสต์มันไม่ดึงดูดพอ

มือใหม่ทั้งหลายที่อยากสร้างโพสต์สวยๆโดยที่ไม่ต้องมีสกิล

เพื่อให้คอนเทนต์ที่เราทำมา

ได้รับความสใจมากขึ้น ลองทำ 3 ขั้นตอนต่อไปนี้นะคะ

………………………………………………………………..

1. เปลี่ยนความคิด

พี่เมริค่อนข้างเชียร์ให้ลองออกจากกรอบเดิมๆ ของตัวเองซักหน่อยนะคะ

และหยุดตีตราตัวเองก่อนว่า….

“ฉันไม่มีวันทำโพสต์สวยๆได้หรอก”

ก็เราไม่มีหัวศิลป์นี่

ก็เราไม่ได้มีสกิตขนาดนั้น

คอมฉันมันไม่แรง จะไปลงโปรแกรมหรือหัดทำโฟโต้ชอบคงไม่ไหว

มันไม่ผิดอะไรนะคะที่ตอนแรกเราจะรู้สึกแบบนั้น

เพราะก่อนที่เราจะเปลี่ยนตัวเองได้ ขั้นแรกเราก็ต้องยอมรับตัวเองก่อนใช่มั๊ยคะ

“ทำถูกแล้วค่ะ” แต่เมื่อเรารู้แล้วว่าติดปัญหาตรงไหน 

เราต้องไปต่อ หาทางแก้ เพราะสิ่งที่เราเป็นอยู่มันเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

2. หาตัวช่วยเจ๋งๆ

บนโลกออนไลน์ มีตัวช่วยเยอะมากๆๆ ทั้งที่เป็นเว็บไซต์ บนคอม

แอพในมือถือ พวกแต่งรูป แต่งภาพ แต่งโทนสี ทำโพสต์สวยๆ

ทำปกเพจ ทำปก Youtube ทำ IG Story รวมถึงทำรูปสำหรับโพสต์ขายด้วย

เช่น Canva / Over / PicsArt 

ส่วนสาย IG หลายคนก็แนะนำ UNUM (แต่ตัวนี้พี่เมริยังไม่เคยลอง)

หรือแม้แต่ PowerPoint ที่เราใช้งานกันอย่างคุ้นเคยนี่แหละค่ะ

ถ้าวีดีโอก็แนะนำ KineMaster / Inshot ก็ง่ายดีค่ะ

ตัวช่วยทำโพสต์สวยๆแบบลงทุนน้อยใช้แรงในการเรียนรู้น้อย

แต่ได้ผลลัพธ์ดีงามมากโขเหมาะสำหรับคนเริ่มต้นจนไปถึงขั้นกลางเลยค่ะ

(มือโปรบางคนก็ใช้นะคะพี่เมริเคยเห็น)

โดยส่วนตัวแนะนำให้ลองไปศึกษาเพิ่มทาง YouTube

หรีอติดตามเพจพี่เมริไว้ก็ได้นะคะมีมาแบ่งปันแน่นอน

ใช้ตัวฟรีไปก่อนชอบตัวไหนค่อยเสียตังค์จริงจังก็ได้

เพราะตัวฟรีก็ใช้งานได้ดีงามหลายอันเลย

ฝึกบ่อยๆและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ในช่วงแรกนะนำให้ทำบ่อยๆก่อนค่ะ

สวยไม่สวยไม่เป็นไรอย่าเพิ่งท้อ

ทำแล้วเรียนรู้และพัฒนาต่อค่ะ

พี่เมริแนะนำช่วยแรกลองไปหาไอเดียก่อน

อ่านเพิ่มได้ที่โพสต์นี้นะคะ ” 10 แหล่งไอเดียทำคอนเทนต์ “

หรือจะลองเลียนแบบคนเก่ง 

ก็อ่านเพิ่มที่โพสต์ “อยากเขียนคอนเทนต์เก่งๆ คำตอบอยู่นี่นะ”

รับรองทำตาม 3 ขั้นตอนนี้

คุณจะเริ่มมีโพสต์สวยๆ และกลายเป็นคนมีสกิลขึ้นมา

จนคุณจะงงว่าว่า….นี่ฝีมือฉันเองจริงๆหรือนี่

แรงบันดาลใจจากสตีฟจอบส์

ที่พี่เมริได้เรียนรู้จากเรื่อง

“Connecting the Dot”

คือเราไม่รู้ทุกสิ่งที่เราเรียนรู้และลงมือทำในวันนี้แม้ไม่ก่อให้เกิดผลทันที

แต่วันนึงมันจะประโยชน์กับเรา

บางทึจุดต่างๆที่มันต่อกันทำให้เราไปถึงเป้าหมาย

หรือกลายเป็นคนที่ขายได้มีโพสต์สวยๆหรือสร้างรายได้บนโลกออนไลน์

ถ้าเราลองมองย้อนกลับไป

เราจะเข้าใจว่ามันเชื่อมต่อกันได้ยังไง

ดังนั้นถ้าวันนี้เรายังขาดจุดไหน 

หรือได้เพิ่มจุดบางจุดให้กับตัวเองเข้าไป

คุณก็จะกลายเป็นคนที่มีรายได้จากโลกออนไลน์ได้เหมือนกันคนอื่นจริงๆได้ค่ะ

………………………………………………………………..

พิมพ์ไว้เตือนใจตัวเองและเอามาแบ่งปันกันค่ะ

ถ้ามีประโยชน์ “แชร์ได้เลยนะจ๊ะ”

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่

FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri   หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ  https://lin.ee/X4Fs33w

#เมริ #การตลาดเข้าใจง่าย #การตลาดออนไลน์ #Content #ContentMarketing #Engagement #EngagementContent

อยากเขียนคอนเทนต์เก่งๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง คำตอบอยู่นี่ค่ะ

#อยากเขียนคอนเทนต์เก่งๆ ทำยังไงดีคะ?

อยากมีโพสต์ขายเจ๋งๆ ต้องเริ่มที่ตรงไหน?

เป็นคนไม่ครีเอท ไม่มีหัวศิลป์เลย จะทำรูปให้ดึงดูดได้มั๊ยครับ ?

“อยากเก่งให้เริ่มต้นด้วยการเลียนแบบ”

นี่คือคำตอบค่ะ

……………………………………………………………..

คุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะมีความรู้สึกขัดแย้งในใจลึกๆ

เพราะคุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า

“ไม่มีใครจำเบอร์ 2 ได้หรอก”

ต้องเป็นเบอร์ 1 เท่านั้น !!!

ไม่เชื่อลองถามตัวเองดูซิ

ใครเหยียบดวงจันทร์ได้คนที่ 2 

คุณตอบไม่ได้ใช่มั๊ย  (ยกเว้นไปเซิร์ท Google)

แต่คุณจำได้ว่า “คนที่เหยียบดวงจันทร์คนแรกคือ นีล อาร์มสตรอง”

ด้วยยานอะพอลโล่ 11 

สมัยเรียนวิทยาศาสตร์ ตอน ป. 4 หนังสือบอกมาอย่างนั้น 

……………………………………………………………..

คำถามคือ แล้วจะทำยังไงให้เป็นเบอร์ 1 ล่ะ ?

ก็ต้องเป็นคนแรกๆ ที่ทำน่ะซิ!!

หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องทำอะไรแปลกใหม่ 

หรือไม่ก็ “ต้องสร้างความแตกต่าง”

……………………………………………………………..

คำถามคือ แล้วถ้ายังไม่รู้ว่าจะทำให้มันแตกต่างล่ะ?

ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้มันแปลกยังไง

พูดง่ายๆ ก็ฉันยังไม่เก่ง ไม่มีไอเดีย

แถมยังเป็นมือใหม่ (บางคนใหม่มากด้วย)

แล้วจะทำยังไง 

คำตอบจากใจพี่เมริคือ

“ลงมือทำด้วยการเริ่มต้นจากการเลียนแบบ” ไปก่อน

……………………………………………………………..

เหตุผลที่พี่เมริแนะนำ สำหรับมือใหม่

ไม่มีหัวศิลป์ แต่อยากเก่งเรื่องคอนเทนต์

และเรื่องโพสต์ขาย

(เพราะพี่เมริเองก็กำลังฝึกวิทยายุทธนี้อยู่ค่ะ)

……………………………………………………………..

พี่เมริพบว่า….

บ่อยครั้งเลยที่เราไม่รู้หรอกว่า 

“เราจะทำให้มันแตกต่าง”

“เราจะทำคอนเทนต์ให้มันโดดเด่น”

“เราจะทำคอนเทนต์ให้มันดึงดูด” ยังไงดี

……………………………………………………………..

แต่เรากลับรู้สึกหรือรับรู้ได้ว่า….

“โพสต์นี้ดีอ่ะ”

“พาดหัวอย่างโดน”

“เจอโพสต์ขายแบบนี้ กระเป๋าตังค์สั่นสะเทือน”

“โอ๊ยๆๆ อย่าส่งรูปนี้มา มือฉันลั่นอีกแล้ววว”

ใครเป็นอาการแบบพี่เมริบ้าง 

เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะกำลังหาพวกเลย 555

……………………………………………………………..

มันง่ายกว่ามั๊ยคะ

ถ้าเราเริ่มต้น จากสิ่งที่เราโดนมากับมือ

มันจะง่ายกว่ามั๊ยคะ

ถ้าเราเริ่มต้น จากสิ่งที่เราชอบ 

จากคนที่เก่งกว่า หรือจากฮีโร่ของเรา

……………………………………………………………..

ทุกครั้งที่คุณใจสั่น 

ทุกครั้งที่คุณมือลั่น

ทุกครั้งที่คุณหยุดดู

ทุกครั้งที่คุณดูจนจบ

คุณลองเซฟเก็บไว้

จดเอาไว้ ถ่ายรูปเอาไว้ หรืออะไรก็ได้

……………………………………………………………..

คนไหนที่คุณติดตาม

คนไหนที่คุณชื่นชอบ

หนังสือ บทความ บล็อกไหน เพจไหน ช่องไหน

ที่คุณดูแล้วรู้สึก อยากเป็นแบบนี้บ้าง

หรือเกิดความรู้สึกได้ไอเดียบางอย่าง

พี่เมริแนะนำให้ลองจดคำพูด สไตล์ หรือแม้แต่เพลงประกอบ

หรืออะไรก็ตามแต่ ที่มันทำให้คุณรู้สึกถึงสิ่งนั้น

แล้วลองทำด้วยการเลียนแบบเขาค่ะ

……………………………………………………………..

Key สำคัญ คือ “เลียนแบบ ไม่ใช่ Copy Pate”

ถ้าคุณจะ Copy Pate ควรให้เครดิต หรือ บอกแหล่งที่มา

คุณจะไม่มีวันเก่งขึ้นเลย หรือ แตกต่างได้เลย

พูดง่ายๆ คุณไม่มีวันเป็นเบอร์ 1 ได้แน่นอน

ถ้าคุณเอาของคนอื่นมาแบบลอกเขาทั้งดุ้น

ส่วนใครไอเดียตัน คิดคอนเทนต์ไม่ออก ลองอ่าน “ที่นี่นะคะ

……………………………………………………………..

แต่คุณจะเริ่มหาสไตล์ของตัวเองเจอ

เริ่มจะสร้างความแตกต่างได้

หรือเป็นเบอร์ 1 ในน่านน้ำของคุณเอง

การเลียนแบบเช่น

เอาประโยคทองมาใช้

ดูขั้นตอนของสิ่งเหล่านั้น

เอาแบบฟอร์ม แพทเทิน เหล่านั้นมาใช้

และมันจะมีความเป็นไปได้ว่า…

ความผสมผสานต่างๆ มันจะหล่อหลอมคุณขึ้นมา

เพราะคุณมีฮีโร่หลายคน ดิดตามหลายช่อง มีครูหลายคน

หรือแม้แต่ความพร้อมของคุณอาจจะแตกต่างกัน

……………………………………………………………..

และถ้าเป็นไปได้ พี่เมริอยากให้คุณลองศึกษา

ถึงแนวคิดนั้นๆ ด้วยค่ะ 

เพราะมันจะทำให้คุณต่อยอดได้ง่ายขึ้น

หรือมีความแตกต่าง โดดเด่น ในแบบที่เป็นของคุณเอง

……………………………………………………………..

ถ้าคุณอยากทำคอนเทนต์ให้เก่งขึ้น 

พี่เมริมีแบบฝึกให้ง่ายๆ ให้คุณลองค่ะ

ทำเลยหลังจากอ่านโพสต์นี้เสร็จ!!

……………………………………………………………..

สำหรับคนที่ไม่มีหัวศิลป์

พี่เมริแนะนำให้คุณลองเข้าไปเล่นใน Canva นะคะ

เอางานแม่แบบที่มีอยู่แล้ว

ที่สวยๆ ถูกใจคุณ

ที่เห็นแล้วคุณสะดุดตา

ลองเอามาใส่รูปสินค้าของคุณ หรือ ใส่คำพูดของคุณ

พร้อมประโยคทองที่คุณไปอ่านเจอ

หรือที่หยุดซื้อสินค้าครั้งล่าสุด

เอามาทั้ง 2 อย่างมาผสมกันซิ

แล้วทำคอนเทนต์ออกมา 1 อัน

แล้วโพสต์มันซะ !!!

ทำแบบนี้ แล้วเรียนรู้กับมันไปเรื่อยๆ

……………………………………………………………..

ถ้าคุณทำอย่างสม่ำเสมอ

ภายใน 1 เดือน คุณจะพบว่า….

มันง่ายขึ้นและคล่องขึ้นกว่าครั้งที่เริ่มทำเยอะเลย

หรือไม่ก็…

ถ้าเมื่อไรที่คุณพบปัญหาใหม่ๆ

ให้คุณสบายใจได้เลยว่า…

โอ้ววว ฉันมาสู่อีกขั้นหนึ่งแล้วล่ะ

ถ้าทำแล้วเอามาโพสต์บอกกันได้นะคะ

ไม่เก่งขึ้นให้มันรู้ไป (^V^)/

……………………………………………………………..

“ถ้ามีประโยชน์ โปรดแชร์และลงมือทำนะคะ”

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่

FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri   หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ  https://lin.ee/X4Fs33w

……………………………………………………………..

#เมริ #การตลาดเข้าใจง่าย #การตลาดออนไลน์ #Content #ContentMarketing

#Canva #อยากเก่งคอนเทนต์ #ทำคอนเทนต์  #เทคนิค 

ไม่ต้องถ่ายรูปสินค้าของตัวเองก็ทำคอนเทนต์ได้

บร้า เธอพูดอะไรของเธอนี่พี่เมริไม่ถ่ายรูปสินค้า แล้วจะเอารูปไหนมาทำคอนเทนต์ล่ะ ?

แล้วจะขายอะไรมิทราบ ชิชิ!! (เบะปาก ตามองบน)

พี่เมริขอเล่าให้ฟังแบบนี้นะคะถ้าทุกวันนี้คุณเอาแต่ขาย ขาย ขาย แล้วก็ขาย

“คุณจะรอดตายได้ เมื่อคุณยิงแอดเป็น”จริงหรือจริงคะ ? สายยิงแอดเข้าใจเรื่องนี้ดี

แต่สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ โดยเฉพาะคนที่ขาดหัวศิลป์ไม่อินกับเทคโนโลยี ไม่มีความครีเอทในการถ่ายรูปเงินยิงแอดก็กระจ้อยร่อย ไม่มีเวลาไปฝึกปรือฝีมือตัดต่อในโฟโต้ช้อปมาฟังทางออกกับพี่เมริค่ะ

คอนเทนต์ Content หรือ สาร ที่เราสื่อไปถึงกลุ่มเป้าหมาย

มีหลายรูปแบบมากๆ เลยค่ะไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือล้วนๆวีดีโอ เสียง รูปภาพ หรือแบบผสมผสาน

หน้าที่ของ Content ก็มีหลายอย่างตั้งแต่

  • ทำให้ “เขารู้จัก”
  • ทำให้ “เขาชอบ”
  • ทำให้ “เขาเชื่อใจ”
  • ทำให้ “เขามีส่วนร่วม”
  • ทำให้ “เขาจำ”
  • ทำให้ “เกิดยอดขาย” (ทางทั้งตรงและทางอ้อม)=> บางคนก็เรียกแยกสิ่งนี้ออกไปอีกศาสตร์นึงเลย คือ “โพสต์ขาย”

พอจะเห็นภาพมั๊ยคะ ว่าในความเป็นจริงแล้ว คุณยังจำเป็นต้องทำ Content ในรูปแบบอื่นๆอีกมากมายซึ่งนั่นก็หมายความว่า……

บางโพสต์​ที่คุณจะเอามาใช้ หรือ คอนเทนต์บางอย่าง“ไม่จำเป็นต้องใช้รูปสินค้าเลย”

ดังนั้น ตัดข้ออ้างออกไปก่อนเรื่อง #ถ่ายรูปไม่สวย #ถ่ายรูปไม่เป็น เลยทำให้ไม่มีคอนเทนต์เอาไปโพสต์ใครติดปัญหาเรื่องคิดคอนเทนต์ไม่ออก

พี่เมริรวม 10 แหล่งหาไอเดียทำคอนเทนต์มาให้แล้วที่โพสต์นี้นะคะ https://bit.ly/3dCMwrf

สำหรับใครที่อยากทำโพสต์สวยๆ และใช้แรงน้อยๆความครีเอทไม่เยอะและลดความกังวลเรื่องรูปผิดลิขสิทธิ์พี่เมริแนะนำเครื่องมือที่ชื่อว่า..Canva กับ Over นะคะ

ก่อนจบโพสน์นี้ไปลองกลับไปลิสต์ดูนะคะว่า…

เรายังขาด คอนเทนต์ประเภทไหนหรือยังมีคอนเทนต์แบบไหนบ้างที่เราทำได้ “โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีรูปถ่ายสินค้า”เพื่อให้คุณได้ลงมือทำ และเดินไปข้างหน้าโดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ที่ “Content ยังคงเป็น ราชา อยู่ จนถึงทุกวันนี้”

เห็นทางออกกันแล้วนะคะว่า… “ไม่ต้องถ่ายรูปสินค้าของตัวเอง ก็ทำคอนเทนต์ได้”

ถ้ามีประโยชน์ “แชร์ได้เลยค่ะ”

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://lin.ee/X4Fs33w

#เมริ #การตลาดเข้าใจง่าย #การตลาดออนไลน์ #แอพทำรูปฟรี #ทำโพสต์สวยๆ #Content #Canva #เทคนิคทำโพสต์สวยๆ #วิธีทำรูปสวยๆ #แอพแต่งรูป

#คิดคอนเทนต์ไม่ออก. #คอนเทนต์ตัน. ลองไปดู10 แหล่งหาคอนเทนต์ ถ้าตันให้มันรู้ไปดูกันค่ะ

1. จากลูกค้าหรือคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย

อันนี้ง่ายสุดจร้า สำหรับคนที่ทำมาซักพักไม่ว่าจะจากในที่ไลฟ์ ในคอมเม้นท์ ในอินบ๊อกซ์หรือแม้ตอนที่จะตัดสินใจซื้อ ตอนกำลังจ่ายเงินตอนที่ซื้อแล้ว ตอนที่ใช้ของเราไปแล้วส่ิงเหล่านี้เอามาทำคอนเทนต์ได้หมดเลยค่ะแถมยังโดนด้วย เพราะมาจากแหล่งที่คนที่เราอยากขายเขาให้มาค่ะ

2. จากคู่แข่งหรือคนในวงการเดียวกัน

ถ้ายังไม่มีลูกค้า หรือ ยังมีคนในช้อแรกมากนักอีกแหล่งหลักๆ ก็คือ ของคู่แข่งหรือคนในวงการเดียวกันลองแฝงตัว ลองสิง ลองส่องดู ว่าเขาทำคอนเทนต์แบบไหนอะไรกันนะ เทคนิค กดติดตาม ไว้เลยค่ะ (ในเพจก็มีให้เราเลือกได้นะคะในหลังบ้านของเรา แบบเห็นสถิติเลยว่าเขาโพสต์วันละกี่โพสต์ อยากดูโพสต์ไหนเราก็เขาไปดูค่ะ ในเพจที่เราจับตา หรือถ้าใครงงก็กดติดตามธรรมดา แต่เลือกแบบเห็นทั้งหมดก็ได้ค่ะ) ช่องทางออนไลน์ต่างๆมีให้กดติดตามแน่นนอนจร้าาาาแต่ คีย์คือ ไม่ใช้หลอกค่ะ ไปดูไอเดีย แล้วเอาปรับใหม่

3. ย้อนรอยตัวเอง

ทำไมฉันถึงทำสินค้าชิ้นนี้ขึ้นมาล่ะ ?

หรือทำไมถึงเลือกขายอันนี้ มันดีต่อคนอื่นยังไง?

มันมีประโยชน์ยังไง?มันต่างจากร้านอื่นตรงไหน ?

ทำไมฉันถึงเพิ่มบริการนี้ล่ะ หรือทำไมเราถึงตัดเรื่องนี้ออก ?

เช่น ช่วยประหยัดเงิน ช่วยให้ถึงเร็วเข้าใจง่าย ไม่ต้องมีอุปกรณ์เยอะก็ทำได้เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่มีใครรู้มาก่อน

อย่าบอกนะว่าคุณเอาของมาขายหรือทำบริการต่างๆ เปิดร้านมายังไม่รู้ว่าจะช่วยคนอื่นยังไงถ้าตอบตัวเองไม่ได้

แล้วคุณจะตอบลูกค้ายังไงล่ะ ?(แต่หลายคนเป็น จริงๆนะ)

4. YouTube บล็อกต่างๆ พอคแคสต์ด้วยก็ได้

เขาทำเป็นคลิปยาวๆ คุณก็เอามาเล่าสั้นๆได้ในเฟสบุคหรือเอามาเขียน เอามาทำเป็นรูป เอามาสรุป เอามารีวิวใหม่หรือ คนทำนั้นดูน่าเบื่อ คุณมีอะไรแปลกใหม่ก็เอาไอเดียนั้นๆ มาใช้ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรามั๊ย ถ้ามีเอามาได้ปรับได้เลยค่ะไม่จำเป็นต้องของคนไทยนะคะถ้าคนไหนเก่งภาษานี่ได้เปรียบเลยไปดูของประเทศอื่นๆ ก็ได้ยกตัวอย่าง บางอันเนื้อหาดี แต่วิธีการเล่าของเขาดูเป็นทางการเกินไปคุณอาจจะเอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นคอนเทนต์ได้ในสไตล์ของคุณ หรือลองเอามาเรียบเรียงใหม่ก็ได้ค่ะหรือเขาเล่ามาเป็นเสียง แต่คุณทำคลิปเป็นคุณก็ทำเป็นวีดีโอ ให้เกิดอารมณ์กว่าเดิมก็ได้คุณอาจจะนำเสนอได้ดีกว่า สนุกกว่า หรือ เอาไปบวกกับประสบการณ์ของคุณกลายเป็นมุมมองใหม่ที่น่าสนใจได้

5. พันทิป หรือ เว็บบอร์ดต่างๆ (หลายเว็บมีการตั้งกระทู้ให้มาแชร์กันค่ะ)

อันนี้มีคนพูดบ่อย คุณสามารถทำได้ตั้งแต่เซิร์ทใน Google แล้วต่อด้วยพันทิปหรือเข้าพันทิป Pantip.com แล้วไปดูตามห้องต่างๆ ตามแต่สินค้า บริการที่คุณขายบางเรื่องคุณจะเหลือเชื่อเลยว่า…ยังมีคนถามอยู่เหรอ ยังมีคนมีปัญหาอยู่เหรอบางครั้งมันอาจจะเป็นเรื่องเดิมที่เคยมีอยู่คุณสามารถนำเสนอได้ตั้งแต่การรวบรวบปัญหาการรวบรวมทางแก้เอาจัดกลุ่มใหม่ เล่าใหม่ได้เลย ถ้าคุณมีข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเข้าไป เอามาทำรูป ทำคลิป สรุป เป็นประเด็นใหม่ ก็ได้ค่ะเช่น ถ้าความสวยความงาม นอกจากห้องเครื่องแป้งในพันทิป

https://www.jeban.com

https://sistacafe.com/. ยังมีอีกเยอะค่ะ

6. เกาะกระแส

เราสามารถเอาเรื่องฮิต ประโยคฮอท กระแสดังมาช่วยทำคอนเทนต์ได้ค่ะเพียงแต่ข้อเสียของวิธีการนี้ต้องเร็ว ถ้ากระแสหมด คอนเทนต์ก็อาจะไม่ได้รับความสนใจได้ค่ะต้องขยันหน่อย แต่อย่างน้อยก็ได้เรื่องมาทำคอนเทนต์ค่ะ

7. อ่านหนังสือ เสพสื่ออื่นๆ หรือดูวงการอื่นบ้าง

เอาจริงๆ นะคะ นี่เป็นปัญหาของเทพหลายคนเพราะบางครั้งเราคลุกคลีจนชินอยู่จนเป็นเรื่องธรรมดาเลยคิดไปว่า…เรื่องแค่นี้เอง เขาน่าจะรู้แล้วมั้งมันไม่เห็นยากเลย ไม่น่าเอามาทำคอนเทนต์หรอกหรือคุณอยู่ในวงการจนชิน ที่เรื่องบางเรื่องคำบางคำ มีเฉพาะคนในเท่านั้นที่รู้คนนอกอาจจะเคยรู้ ไม่ได้ใช้คำเดียวกันหรือคุณอาจจะได้ไอเดียจากหนังสือ สื่อ หรือเรื่องอื่นๆมาเขียนให้คอนเทนต์ของคุณน่าสนุก น่าติดตามเช่น เอาเรื่องเล่าจากนิทาน จากบทความต่างๆมาเชื่อมโยงกับสิ่งที่เรานำเสนอก็ได้ค่ะ

8. ประสบการณ์ของเรา ของกลุ่มเป้าหมาย หรือ คนอื่นๆ

เช่น ประสบการณ์ของลูกค้าเก่า (บางครั้งเขาไม่ได้บอกแต่เราสามารถสังเกตได้จากบริบทต่างๆ ค่ะ)หรือ เราผ่านเรื่องนั้นมาได้ยังไง เราใช้แล้วรู้สึกยังไงตอนใช้แล้วเราเจอปัญหาไหนเช่น เคยตัอต่อวีดีโอในพรีเมียร์โปรแล้ว รู้สึกว่ารอนานมากตอนที่เซฟงาน แต่พอใช้งานตัดต่อในมือถือรู้สึกว่าเร็วกว่า แม้ความสวยไม่เท่า แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาแบบนี้โอเคเลยเล่าแบบเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟังก็ได้นะคะ โดยเฉพาะในสื่อ โซเชี่ยล ความสนิทสนม ความเป็นกันเองค่อนข้างดีกว่า ความเป็นทางการค่ะคุณสามารถใช้คำพูด ของคุณ ของกลุ่มลูกได้เลยไม่ต้องเปะๆๆ ก็ได้จริงๆ เฟสบุคกลุ่มนี่ขุมทรัพย์เลยจร้าา

9. ตั้งคำถาม ขอความคิดเห็น ทักทาย ให้แรงบันดาลใจ

หลายคนบอกว่า…ทำไปทำไม มันไม่ได้สร้างยอดขายนะแต่พี่เมริจะบอกความลับทางการตลาดให้ค่ะการที่เขามีส่วนร่วมกับเราหรือร่วมแสดงความคิดเห็นบางครั้งเขาจะรู้สึกว่าเหมือนเขาได้เป็นเจ้าของสิ่งนั้นด้วยหรืออยากจะเข้ามาอีกเช่น ชอบสีไหน ถ้าเอาแบบนี้มาชอบมั๊ย อยากให้สอนเรื่องอะไรดีอยากได้อะไรบอกได้ เผื่อเราช่วยได้คือ “การมีส่วนร่วม” หรือ “Engagement” มันคือ ทำให้เขารู้สึกเป็นพวกพ้องหรือเป็นสังคมเดียวกับเรา หรือ บางคนแค่รู้สึกว่า “เขาได้รับการยอมรับค่ะ”เขามาเม้นท์แล้วมีคนมากดถูกใจต่อ เขาก็ภูมิใจ ดีใจหรือ สวัสดีทักทาย อะไรบ้างก็ว่าไป พูดง่ายๆคือ มีปฏิสัมพันธ์นั่นเองหรืออย่างคำคม แรงบันดาลใจก็ใช้ได้ค่ะเพียงแต่ พี่เมริอยากให้ข้อแนะนำอยู่นิดนึงถ้าเราจะใช้ มันควรลิงค์กับสินค้าหรือบริการของเราและมีเรื่องเราของเราเข้าไปให้คนช่วยจดจำด้วยนะคะเพราะไม่อย่างนั้น คุณอาจจะดึงใครมาก็ไม่รู้ที่เขาชอบคำม แต่ไม่ได้จะกลายเป็นลูกค้าหรือว่าที่ลูกค้าในอนาคตของเรา

10. คอนเทนต์เก่า นี่แหละ

บร้า ตลกน่า ไม่ตลกค่ะ นี่เรื่องจริงๆเลยเราสามารถเอาบทความเก่า คอนเทนต์เก่า มาทำใหม่ได้ตั้งแต่เอาอันเดิม มาแปะใหม่เปลี่ยนปก เปลี่ยนพาดหัว เปลี่ยนสีเปลี่ยนรูป เปลี่ยนแปลงประกอบ ตัดให้สั้นลงเพิ่มให้ยาวขึ้น อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่

ถ้า 10 วิธีนี้ ยังตันอยู่ พี่เมริแนะนำให้ ไปอาบน้ำหรือนั่งสมาธิค่ะ 555

ไม่ได้พูดเล่นนะ จริ๊งๆ คือ บางครั้งมันไม่ใช่คุณไม่มีของแต่แค่ อารมณ์คุณมันไม่ได้เครียดเกินไป เศร้าเกินไป นอนน้อยเกินไป ว้าวุ่นเกินไปพักซักแป๊บ ปรับอารมณ์ซักหน่อย จูนตัวเองซักนิดรับรองว่าดีขึ้นค่ะแต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นอีก ยังคิดไม่ออกอีกงั้นก็…..”ใช้เงินแก้ปัญหาค่ะ จ้างเขาเลย”(แต่ระวังคนที่เราไปจ้าง เขาจะะถามว่าพี่อยากได้แบบไหน ประมาณไหนนะคะซึ่งคุณก็ต้องให้ไกด์ไลน์ หรือ คิดบ้างอยู่ดี ว่ามั๊ย ?)

ไปจ๊ะ อ่านจบแล้วไปลิสต์ดูนะว่าได้คอนเทนต์อะไรบ้าง ?คอมเม้นท์บอกกันได้นะคะ

ชอบวิธีง่ายๆและดีแบบนี้ติดตามพี่เมริไว้นะจ๊ะถ้ามีประโยชน์ “แชร์ได้เลยคร่าาาา”

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://lin.ee/X4Fs33w

#เมริ #การตลาดเข้าใจง่าย #การตลาดออนไลน์ #Content #ContentMarketing #Engagement #EngagementContent