พี่เมริเชื่อว่า…คนที่ทำธุรกิจส่วนตัว โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มต้น หรือ แบบทำเองเล็กๆ ต้องเคยเจอปัญหานี้ค่ะ คือ…“ไม่มีลูกค้า” หรือ “ไม่มีเวลา” หรือที่แย่กว่านั้นคือ “ไม่มีทั้งลูกค้าและไม่มีทั้งเวลา” เอะมันจะเป็นได้ยังไง ไปดูสาเหตุกันค่ะ

คือ…”คุณไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนใช่รึเปล่า”

ใครก็ได้ ใครก็เอา ทำให้คุณต้องเอาใจทุกคนและยิ่งถ้าคุณทำงานเองทั้งหมดคนเดียวหรือมีทีมเล็กๆ ทำกับเพื่อน กับน้อง กับญาติๆถ้าเป็นแบบนี้ เรื่องเวลาคุณอาจจะไม่พอหรือต้องเจอลูกค้าที่ ชวนปวดหัวอยู่ไม่น้อยแอร๊ยๆๆๆ ทำไม ยิ่งทำ ยิ่งเหนื่อย แต่ไม่เห็นกำไรหรือมีเงินแต่ไม่ได้ใช้ หรือไม่ก็ ไม่เหลือทั้งเงินทั้งเวลามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า พี่เมริเคยฟังเรื่องกลยุทธ์ฟักทองจาก iClass ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ เลยไปค้นหาต่อ จนได้ไปเจอหนังสือThe Pumpkin plan ของ Milke Michalowicz (ฉบับแปลไทยก็มีขายนะคะของ สำนักพิมพ์ we learn)มันมีแก่นหลายอย่างที่ดี และเปิดมุมมองมากๆแถมพี่เมริว่าเราก็เอามาประยุกต์ใช้บน Online ได้นี่นา ยิ่งคุณเริ่มต้นใหม่ๆ หรือ ทีมงานไม่มี (หรือมีน้อยมาก) ลองอ่าน 3เทคนิคเพิ่มยอดขาย ได้ลูกค้าชั้นดี

พี่เมริเอาแก่นหลัก แนวคิด + วิธีประยุกต์สำหรับมือใหม่เริ่มต้นขาย และทำการตลาดออนไลน์มาฝากสรุปสไตล์พี่เมริเป็น 3 ข้อหลักนี้ค่ะ

ยาวนะคะ แต่ถ้าคุณอ่านจนจบ คุณได้ไอเดียดีๆ กลับไปแน่นอนพี่เมริ ช็อตคัทมาให้แล้ว

Key คือ..ถ้าคุณอยากได้ลูกค้าชั้นดี (สร้างยอดขายให้กับคุณโดยที่คุณไม่ปวดหัว หรือ ลูกค้าแบบที่คุณใฝ่ฝัน บางคนเรียกว่า Dream Customer) คุณต้องคัดเลือกและมีวิธีการจัดการที่แตกต่างออกไปประเด็นคือ ไม่ได้หมายถึงว่า..เราทิ้งลูกค้ารายอื่นๆเพียงแต่เราต้องใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป สำหรับการดูแลลูกค้าชั้นดี หรือ ลูกค้าที่เราอยากพัฒนาให้เขาให้กลายเป็นลูกค้าขาประจำดีๆ ของเรา

แนวทางหลักคือ… “Under Promise & Over Deliver”สรุปให้เข้าใจง่ายๆ คือ “ให้สัญญาแบบไม่เวอร์ แต่ตอนส่งมอบให้ดีกว่าที่คาดเอาไว้”(ซึ่งวิธีการนี้ คือ การนำมาซึ่งความพึงพอใจของลูกค้าค่ะและถ้าลูกค้าพอใจแล้ว โอกาสที่จะซื้อซ้ำ บอกต่อ ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยจ้า)

โดย Milke Michalowicz แนะนำวิธีการง่ายๆ 3เทคนิคเพิ่มยอดขาย ได้ลูกค้าชั้นดี คือ

1. เวลาส่งมอบงาน ให้เผื่อไป 10%

ในส่วนนี้ พี่เมริคิดว่าเอามาประยุกต์ใช้ทั้งในเรื่องการจัดส่งสินค้าได้เหมือนกันค่ะ เช่น รอบปกติที่คุณสามารถทำได้คือ..30 วัน ( 1 เดือน)ก็เผื่อเป็น 33 วัน ( เผื่อไป 10%) แน่นอนค่ะ ว่าคุณอาจจะรู้สึกแปลกๆ แหม ตัวเลขดูทะแท้งๆ มันอาจจะดูไม่เป็นกลมๆแต่ในแง่จิตวิทยา มันช่วยได้ค่ะ

เช่น คุณบอกลูกค้าว่า ส่งได้ภายในวันเดียวแต่ผลปรากฏว่า เวลาส่งจริงๆ ทำได้ใน 2 วัน คุณว่าลูกค้าจะหัวเสียมั๊ยคะ ?

แต่ในทางตรงข้าม ถ้าคุณบอกลูกค้าว่าจัดส่งได้ภายใน 3 วันแต่พอวันที่ 2 ลูกค้ากลับได้รับของแล้ว ลูกค้าคนไหนจะรู้สึกดีกับคุณกว่ากัน

คุณอาจจะแย้งว่า ทุกวันนี้ต้องรวดเร็ว ฉับไว บางที่ส่งวันเดียวถึง“ถ้าคุณทำได้แบบที่รับปาก นั่นดีมาก” (ก.​11 ล้านตัว แต่ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ หรือทีมเล็กๆ ไหวมั๊ย ถามใจเธอดู)

ถ้าคุณคิดภาพไม่ออก ลองไปสั่งสินค้าดูนะคะ แล้วจับความรู้สึกตัวเองว่าร้านที่รับปากแล้วทำไม่ได้ กับร้านที่เขาทำได้เหนือกว่าที่คาดหวังไว้เรารู้สึกต่างกันยังไง(มีคนบอกว่าตัวเลขที่ไม่กลมๆ มันเหมือนกับว่ามีการคิดมาอย่างละเอียดแล้วค่ะ)

2. ให้ของแถมหรือมีของพิเศษ มอบให้ลูกค้าเพิ่มไปด้วย เพื่อให้เกิดอาการเหนือความคาดหมาย

ของแถม หรือ ของพิเศษ ไม่ได้หมายถึงต้องแพงเวอร์วังเสมอไปค่ะคึย์ของมันคือ “การทำให้เกิดความรู้สึกเซอร์ไพรส์ หรือ เกิดคาดหวังค่ะ”

เทคนิคการประยุกต์: ถ้าคุณได้มีโอกาสคุยกับลูกค้า คุณจะรู้ว่า..คนนี้ชอบสีอะไร หรือคุณสามารถติดแท็ก เพิ่มโน๊ต ทั้งในเฟสบุคเพจและใน LINE OA ได้

ลองเอาไปใช้ในการแจกของแถมหรือของพิเศษให้ลูกค้าซิ เช่น รายนี้เคยแถมชุดลองกลิ่นกุหลาบไปแล้ว รอบหน้าแถมเป็นครีมบำรุงมือเล็กๆหรือแถมสีที่ลูกค้าชอบ ก็ได้ เครื่องมือเหล่านี้ใช้ฟรีนะคะ แต่มือใหม่หลายคนไม่รู้ หรือกลับไม่เคยใช้ รู้แล้วอย่าเหยียบไว้ แต่เอาไปใช้ซะนะ!!

พี่เมริเคยเห็นค่ะ เจ้าของร้านบางคน แถมการ์ดเล็กๆ ไปให้ลูกค้าด้วย….เขียนด้วยลายมือ ลูกค้าฟีคแบล็คกลับมาว่า.. “ใส่ใจมาก เซอร์ไพร์สสุดๆ”

มือใหม่ ลูกค้าไม่เยอะ นี่ทำได้สบายๆ เลยค่ะ (เพราะคุณยังมีเวลาอยู่)แต่ถ้าคุณขายดีมากๆ คุณอาจใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป แถมเป็นกิฟท์เซทหรือสิ่งอื่นๆ ที่คุณทำได้ เป็นช่วงๆ ก็ได้ค่ะ (แต่อย่าเอาของใกล้จะเสียแถมไปนะ ไม่เวิร์คจ้า ถ้าจะแถมแบบนั้น ถามก่อนแถมนะจ๊ะ)

3. คือการให้บริการเหนือความคาดหมาย แบบสุ่ม (คาดเดาไม่ได้)

Key คือคำว่า “แบบสุ่ม”

พูดให้เห็นภาพง่ายๆ คือ อย่าทำจนลูกค้าเคยชิน และกลายเป็นเรื่องปกติ

พี่เมริ ยกตัวอย่างแบบนี้ค่ะ เวลาเราลงรูปในเฟสบุค แล้วเรามีอาการกดเข้าไปดูบ่อยๆ มั๊ยคะหลายคนเป็น เพราะ เราเดาไม่ได้ว่า รูปที่เราลงไป จะมีคนถูกใจเยอะมั๊ยคอมเม้นท์เยอะรึเปล่า ทำให้เราเลยต้องกดเข้าไปดูบ่อยๆค่ะ

กลับมาต่อที่เรื่องของเราอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ พี่เมริไม่ได้หมายความว่า…รอบนี้ทำดี รอบหน้าทำแย่ รอบนี้แพคอย่างนี้ รอบหน้าไม่ใส่กันกระแทกซะอย่างนั้น

มาตราฐาน พื้นฐานคุณต้องมีอยู่แล้วค่ะ แต่คำว่า เหนือความคาดหมายแบบสุ่ม

เช่น วันนี้เสริฟ์เมนูใหม่ น้ำอัญชัน ให้ลูกค้าที่มาที่ร้าน

พี่เมริเคยเห็นตัวอย่างของต่างๆประเทศที่เขาให้ลูกค้าSubscription อาหารน้องหมา สิ่งที่เขาเซอร์ไพร์สคือ บางเดือน ส่งของเล่นไปให้น้องหมาเพิ่มบางเดือน ส่งตารางเช็คสุขภาพน้องหมาไม่ได้ส่งให้ทุกเดือนนะคะ แต่ในการส่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้ระบุไว้ในเงื่อนไขเลยสร้างเซอร์ไพรส์ให้เจ้าของน้องหมาสุดๆไปเลย

และในอนาคต หากคุณมีลูกค้าเพิ่มขึ้นฐานข้อมูลลูกค้า (โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ที่คุณทำได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนมากๆ)

อย่าลืมเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยนะคะ

“คุณอยากได้ลูกค้าแบบไหน

คุณต้องสร้างและคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ฟักทองของคุณให้ดี”

พูดง่ายๆ คือ บ่อยครั้งที่ลูกค้าคล้ายๆ กัน ประเภทเดียวกัน แวดวงเดียวกันจะดึงดูดกันและกัน (เอะนี่มันกฎแรงดึงดูดรึเปล่านะ)

เขาหรือเธอจะตัดสินใจจากกลุ่มคนที่คุณเซิร์ฟก่อนหน้าค่ะเช่น โอ้วว ร้านนี้มีแต่คุณหมอไปใช้บริการ เราก็เป็นคุณหมอตัดสินใจเลือกร้านนี้แล้วกัน

ถ้าคุณคัดเลือกคนเกรียน คุณก็จะได้พวกเกรียนเพิ่มขึ้น

ถ้าคุณคัดเลือกลูกค้าชั้นดี และบริการเขาอย่างดีลูกค้าชั้นดีก็มีโอกาสกลับมา บอกต่อ หรือแนะนำเพื่อนทีนี้คุณก็จะมีเวลา และมีเงินมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องไปปวดหัว กับกลุ่มเกรียนที่คุณไม่ต้องการ

ล่าสุดพี่เมริไปอ่านเจอบทความของ Jeff Bezosผู้ก่อตั้งและเจ้าของ Amazon Ecommerce เบอร์ต้นๆ ของโลก(แต่จำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหนค่ะ เลยไม่ได้ใส่เครดิตไว้ให้) Jeff Bezos บอกว่า…“เมื่อก่อนถ้าลูกค้าไม่แฮปปี้ เขาจะบอกคนอีก 5 คนแต่ตอนนี้เขาบอกได้ถึง 5,000 คน”

ได้ไอเดียนะคะ

#3เทคนิคเพิ่มยอดขาย

ได้ลูกค้าชั้นดีไม่พลาดสาระความรู้ดีๆ เรื่องการตลาดแบบง่ายๆด้วยเครื่องมือ ONLINE อย่างเฟสบุคเพจ LINE OAกดเห็นโพสต์ก่อนไว้เลยค่ะถ้ามีประโยชน์ “แชร์ต่อไปค่ะ”ให้เพื่อนๆ ที่ไม่รู้เรื่องนี้ให้เขาได้รู้ด้วยนะคะ

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://lin.ee/X4Fs33w

เคยสงสัยตัวเองมั๊ยคะว่า…ทำไมคนรอบตัวก็สำเร็จกันแต่ทำไมคนนั้น ๆ “ยังไม่เป็นฉันซักที”

หรือว่า…

เพราะเราเริ่มช้าเกินไป ? คนอื่นเขาลุยทำออนไลน์มาตั้ง 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้คู่แข่งแดงเถือก คนทำเยอะแยะ สำเร็จยากจัง

หรือว่า….เพราะเราเป็นมือใหม่ ใครจะไปสู้เจ้าเก่า ไปสู้เจ้าตลาดเก๋าๆได้เขามีฐานแฟนเยอะแล้ว เรามาทีหลังแล้วอย่างนี้จะปังๆแบบเขาได้ยังไงเขามีเจ้าประจำกันหมดแล้วแล้วเราจะเอาลูกค้ามาจากที่ไหน

หรือว่า…เพราะเรามันทุนน้อย เรามันรายเล็กใครจะไปสู้คนมีตังค์ แบรนด์ดัง ได้ล่ะเขามีเงินถุงเงินถัง ยิงโฆษณากันโครมๆๆทุนน้อยอย่างฉันสู้เขาได้ยังไง

หรือว่า…เพราะเรามันไม่มีเครื่องมือ คนอื่นเขาใช้กล้อง DSLR กล้อง mirrorless กันหมดมีสตูดิโอ ชุดไฟ ชุดไมค์ พร้อม วีดีโอสวยกริป ของเรายังมือถืออยู่เลย ใครจะไปดู

หรือว่า…เพราะเราเป็นมือใหม่ ไม่เก่งเทคโนโลยี ตอนนี้ขายผ่านแต่เฟส ขายแค่ในไอจีเว็บไซต์ก็ไม่มี หน้าร้านก็ไม่มีทำคลิปก็ไม่เป็น ทำรูปสวยๆ ก็ไม่ได้LINE OA คือ อะไร Tiktok ก็ปรับใหม่อีกแล้วตามไม่ทัน แล้วจะคาดหวังยอดขายจากไหน

หรือว่า….

ฉันไม่มีเวลา

ฉันอายุเยอะแล้ว

ฉันไม่มีประสบการณ์

กูรูเยอะเกินไป ไม่รู้จะเชื่อใครดี

บลา บลา บลา..

ทางแก้เดียวที่พี่เมริอยากจะแนะนำให้ทำคือ…โดยเฉพาะมือใหม่ค่ะ“การลงมือทำ”

หลายคนหลังไมค์มาถามพี่เมริยินดีตอบให้นะคะแต่จากที่สังเกตหลายๆ ครั้ง ปัญหาที่เจอกลับพบว่า….“อยากขายดี ทำยังไงคะ”

พอพี่เมริ ถามกลับไปว่า ตอนนี้ทำอะไรไปบ้างแล้วคะหรือว่าเล่าปัญหาให้ฟังคร่าวๆ ได้มั๊ยปัญหาที่เจอส่วนใหญ่ จะวนเวียนประมาณนี้ค่ะประมาณข้างบนที่พี่เมริสรุปมานั่นแหละค่ะ

และหลายครั้งยังบอกอีกว่า…เห็นบางคนไม่เห็นต้องทำทุกวันไม่เห็นต้องลงคอนเทนต์บ่อยๆ เลยแล้วทำไม หนู ผม ฉัน พี่..ต้องทำบ่อยๆ ด้วยล่ะยิ่งไม่มีเวลาอยู่ กว่าจะทำเสร็จแต่ละอย่างก็ใช้เวลานาน

เพราะเป็นมือใหม่ยิ่งเป็นมือใหม่ยิ่งต้องฝึกค่ะ เพราะการฝึกบ่อยๆ คุณจะชำนาญมากขึ้น

ยิ่งไม่มีลูกค้า ยิ่งไม่รู้จักลูกค้ายิ่งต้องขยันทำคอนเทนต์ค่ะ และต้องเอาตัวไปคลุกคลีกับ ว่าที่ลูกค้าหรือไปส่องคู่แข่ง ไปส่องไอดอล ไปส่องคนสำเร็จ(แหล่งที่มีลูกค้าของเราอยู่ ดูว่า กลุ่มเป้าหมายของเราเขาสงสัยอะไรยังมีอะไรมั๊ยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือยังเป็นปัญหาอยู่)และในช่วงแรกก็ไม่ต้องตกใจที่คอนเทนต์ของเราจะดูเงียบเหงาเอาจริงๆ ขนาดพี่เมริทำมาซักพัก หลายคอนเทนต์ที่เราอยากทดสอบก็ยังแป๊กก็มีค่ะ

คีย์ของการลงมือทำ และการทำอย่างต่อเนื่องคือ… “จะทำให้คุณได้สร้างกล้ามเนื้อและนิสัยบางอย่าง…

(คนรู้จ้กบางคนเคยลงบทความทุกวัน วันไหนไม่ได้ลงจะรู้สึกแปลกๆทั้งๆที่ก่อนหน้าที่ไม่เคยเป็นอาการนี้มาก่อน)

“การลงมือทำ จะทำให้คุณรู้ว่าคุณ กำลังติดปัญหาอะไร”

เช่น จริงๆ ไม่ได้เป็นอุปกรณ์นี่นา แต่ติดตรงไม่รู้จะเขียนอะไรดีหรือ สคริปเราไม่น่าสนใจ พูดวกไปวนมา คนดังที่พี่เมริรู้จักหลายคน ยังใช้มือถืออัดคลิปอยู่เลยค่ะ แต่ยอดแชร์ ยอดคอมเม้นท์กระจายที่สำคัญยอดขายก็เยอะด้วย… “การลงมือทำ จะทำให้คุณ มีทักษะหรือเจอวิธีการใหม่ๆ หรือได้ความรู้ใหม่ๆ”อย่างเช่น ไม่มีเวลา เอะมันมีวิธีหรือตัวช่วยไหนมั๊ย ที่จะทำให้ทำได้เร็วขึ้นเช่น ทำโฟโต้ช้อปไม่เป็น จ้างมั๊ย ฝึกแคนวามั๊ย ทำเพาเวอร์พ้อยส์มั๊ย แอ๊บแต่งรูปมั๊ยหรือ ตัดต่อคลิปอยากจัง งั้นไลฟ์สดเลยมั๊ย หรือ ท่องบทดีๆ หรือ พูดเป็นช่วงๆ ให้ตัดง่ายที่สุดหรือ ไม่มีเงินไปเรียน ความรู้ฟรีหาไปก่อนมั๊ย หรือ ลดค่าเสเพลฟุ่มเฟือยบางอย่างเก็บตังค์แล้วสร้างทางลัดไปเรียนให้รู้ดีมั๊ย ? หนทางที่จะไปมันยังมีเยอะมากค่ะ

แม้ว่าวันนี้ “เราอาจไม่ได้ทำได้ดีที่สุด”

เพราะจริงๆ แล้วเราทำได้มากกว่านี้

เราเก่งได้กว่านี้อีกค่ะ

และเราก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้

แต่…คำถาม ที่พี่เมริอยากจะฝากไว้โดยเฉพาะคนที่เป็นมือใหม่และยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งเทคโนโลยีติดและกังวลก็คือ…

คุณกล้าตอบตัวเองมั๊ยค่ะว่าตอนนี้…

“แม้ว่าวันนี้ เราอาจไม่ได้ทำได้ดีที่สุดแต่ไม่อาจพูดได้ว่า..ฉันไม่ได้ทำเต็มที่”

ดีที่สุด ณ จุดที่เป็นทำเต็มที่ ที่สุด ณ ความสามารถ เงินทุน และเวลาที่คุณมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของคุณยอดขายของคุณหรืออะไรก็ตาม…

มันจะเกิดจากการสะสมความสำเร็จเล็กๆน้อยค่ะและความสำเร็จของคุณมันจะมีตัวเชื่อมโยงบางอย่าง….

นั่นคือ “การลงมือทำ”

อย่ากลัวที่จะไม่รู้จักเครื่องมือบนโลกออนไลน์

อย่าลัวที่จะตามไม่ทันเทคโนโลยี

คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมด

คุณไม่จำเป็นต้องทำเองทั้งหมด

คุณไม่จำเป็นต้องเก่งตั้งแต่เริ่ม

เมื่อไรก็ตามที่มือใหม่ทั้งหลาย รู้สึกแย่ รู้สึกกลัว รู้สึกกังวล

พี่เมริอยากให้บทความนี้ ช่วยให้คุณเห็นแง่มุมอะไรบางอย่าง….ลองอ่านทวน ซ้ำไป ซ้ำมา…คุณอาจจะพบว่า…

สิ่งที่คุณติดคือ…ความคิดของคุณเองค่ะ

เป็นกำลังใจให้มือใหม่ทุกคนนะคะเป็นกำลังใจให้คนที่รู้สึกว่าไม่เก่งเทคโลยีค่ะจับมือไปด้วยกันกับพี่เมรินะคะพี่เมริจะเป็นตัวช่วยนึงที่จะทำให้คุณดีขึ้นค่ะ

#พี่เมริ

#การตลาดเข้าใจง่าย

#มือใหม่ไม่เก่งเทคโนโลยี

#มือใหม่หัดขายออนไลน์

#การตลาดออนไลน์

LINE OA UPDATE เมนูและเครื่องมือ

LINE OA UPDATE ล่าสุด! !

รอบนี้พี่เมริจะพาไปดู เมนูต่างๆ ที่เปลี่ยนไปของ LINE OA
ที่ปรับโฉมล่าสุด 2021 นี้ค่ะ
พร้อมเทคนิคต่างๆ ของการเอาไปประยุกต์ใช้

สำหรับใครที่ดูคลิปอื่นๆ แล้ว เข้าไปใช้งาน LINE OA ผ่านคอมพิวเตอร์
แต่หาเมนูต่างๆ ไม่เจอ ดูคลิปนี้เลยนะคะ
แต่แก่นหลักการสร้างและการนำไปใช้งานยังคงเหมือนเดิมค่ะ
ใครตามไม่ทันหรืออยากได้รายละเอียดอีก
ไปอ่านเพิ่มได้ที่โพสต์นี้นะคะ https://bit.ly/3rGlcgc

ไม่พลาดสาระความรู้ดีๆ เรื่องการตลาดแบบง่ายๆ
ด้วยเครื่องมือ ONLINE อย่างเฟสบุคเพจ LINE OA
กดเห็นกระติ่งแจ้งเตือนทั้งหมดไว้เลยนะคะ

ถ้ามีประโยชน์ “แชร์วนไป”
ให้เพื่อนๆ ที่ไม่รู้เรื่องนี้ให้เขาได้รู้ด้วยนะคะ
ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่
FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri
Website: https://www.marketingmayri.com/
Line: @mayri หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://lin.ee/X4Fs33w
#เมริ #การตลาดเข้าใจง่าย #การตลาดออนไลน์
#LineOA2021 #StepMessage #LineOA2021 #LineOAอัพเดทล่าสุด
#LineOAUpdate

ใครเข้ามาใช้งาน LINE OA ในคอมแล้วหาเมนูเก่าๆ ไม่เจอหรือได้ยินมาว่า ตอนนี้เขามี Step Message สเตปเมสเซจ แล้วนะว่าแต่มันคืออะไร แล้วมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างเปลี่ยนแล้วในแง่ของการตลาดเราเอามาทำอะไร ดีกับเรายังไงเมริสรุปไว้แบบเข้าใจง๊าย ง่าย ที่นี่ค่ะพี่เมริย่อยและสรุป มาให้เป็น 7 ข้อ แบบนี้ค่ะ(เอะ สรุปว่า สรุป หรือ สรุปว่า ย่อยมา 555 ไม่ต้องงงค่ะ)ไปดูกันเลยจ้า

1.เพิ่มเครื่องมือ STEP MESSAGEเครื่องมือใหม่ล่าสุด จาก LINE OA

พูดง่ายๆ เป็นตัวช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีตามหลัก FUNNEL หรือ ทำการตลาดแบบ CUSTOMIZE ตามกลุ่มเป้าหมายได้ค่อนข้างดีเช่น แบ่งเพื่อนใหม่ล่าสุด เราก็สร้างความสัมพันธ์และความเชื่อใจไปก่อนด้วยสาระดีๆแล้วค่อยนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นเด็ดไม่ได้เปิดขายตั้งแต่แรกพบ เป็นต้น หรือแยกส่งตามคุณสมบัติ ตามเงื่อนไข เช่นสำหรับผู้ชาย ผู้หญิง ส่งคอนเทนต์ได้ตรงกลุ่มกว่าเดิมว่าง่ายๆ

2. รวม MESSAGE ต่างๆ หาง่าย ใช้สะดวก

ใครหาไม่เจอ #อยู่นี่นะรวมเครื่องมือเมสเซจต่างๆ ไว้ในกลุ่มเดียวกัน ได้แก่

ริชเมสเซจ = ภาพใหญ่เต็มจอ เมื่อดูผ่านมือถิอ ใส่ลิงค์ได้ ใส่ Call to Action ได้

ริชวีดีโอ = วีดีโอเต็มหน้าจอ เมื่อดูผ่านมือถือ ใส่ลิงค์ได้ ใส่ Action ได้ และเล่นเองอัติโนมัติ

การ์ดเมสเซจ = ภาพสไลด์ ที่ใส่รายละเอียดต่างๆ แยกของใครของมันได้ เมื่อประกาศบอร์ดแคสต์ใส่ได้สูงสุดถึง 9 การ์ด (ประกาศบอร์ดแคสต์ได้สูงสุด 3 บอลลูน =27 การ์ด/ครั้ง ไม่รวมการ์ดปิดท้าย)มีทั้งสินค้า สถานที่(ลิงค์แผนที่ได้) บุคคล และรูปภาพ

3.รวมเครื่องมือการตลาดไว้ด้วยกัน

คูปอง บัตรสะสมแต้ม และแบบสำรวจเครื่องมือ คูปอง บัตรสะสมแต้ม และแบบสอบถามถูกจัดกลุ่ม มาไว้ภายใต้แถบเครื่องมือคือ

เครื่องมือสำหรับทำโปรโมชั่นCRMรวมถึงทำแบบสำรวจ เช่น เราอยากเทสตลาดก่อนออกสินค้าจริง เป็นต้น

4. ข้อความทักทายเพื่อนใหม่ + ริชเมนู จัดกลุ่มไว้ใน..เมนู “การจัดการห้องแชท

ใครงงหาไม่เจอ ว่าจะตั้งค่า ข้อความทักทายเพื่อนใหม่ตรงไหน ริชเมนูสร้างตรงไหน

อยู่ที่นี่นะ => การจัดการห้องแชทส่วนข้อความตอบกลับอัติโนมัติจะแยกเป็นอีกเมนูหรืออีกแถบเครื่องมือไปเลยค่ะ

ส่วนการปิดข้อความทักทายเพื่อนใหม่ ไปปิดที่ตรง ”ตั้งค่า” => ”ข้อความตอบกลับ” เหมือนเดิมนะ!!

5. แชร์และเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายไปยัง LINE ADS (LAP)รวมอยู่ในเมนู “จัดการข้อมูล”

การแชร์กลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์มอื่น:เช่น อนุญาตให้แชร์กลุ่มเป้าหมายไปยังแพลตฟอร์มอื่น

คุณจะสามารถใช้กลุ่มเป้าหมายนั้นที่ Messaging API และ LINE Ads Platform ที่เชื่อมต่อกับเบสิค ID และพรีเมียม ID เดียวกันได้ เริ่ดมากกก

6. เชื่อมต่อไปยังบริการอื่นๆ LINE OA PLUS

ในส่วนของการตั้งค่า เลื่อนลงมาเกือบล่างสุด จะเจอ เมนู “บริการเชื่อมต่อ”สามารถจัดการข้อมูลในเรื่องของการแชทได้ง่ายขึ้น เช่น ดูประวัติการแชท จัดการและตรวจสอบแชท

7. “ซ่อน” หรือ “โชว์” แถบเมนู เวลาใช้งานก็ได้

สามารถกดป่อน ซ่อน หรือ แสดง เมนูต่างๆ ระหว่างการใช้งาน LINE OA ได้เมื่อก่อน ไม่มีปุ่มให้ซ่อนค่ะไม่พลาดสาระความรู้ดีๆ เรื่องการตลาดแบบง่ายๆด้วยเครื่องมือ ONLINE อย่างเฟสบุคเพจ LINE OAกดเห็นโพสต์ก่อนไว้เลยค่ะ

ถ้ามีประโยชน์ “แชร์วนไป”ให้เพื่อนๆ ที่ไม่รู้เรื่องนี้ให้เขาได้รู้ด้วยนะคะ

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://lin.ee/X4Fs33w

#เมริ #การตลาดเข้าใจง่าย #การตลาดออนไลน์ #LineOA2021

#StepMessage

#LineOA2021

#LineOAอัพเดทล่าสุด #LineOAUpdate

หากใครต้องการรวมเพจเฟสบุค #ก่อนรวมเพจ เมริแนะนำให้ดูคลิปนี้ก่อนค่ะ

เพราะข้อกำหนดที่ทาง Facebook ระบุเอาไว้ ในเรื่องการรวมเพจ หลักๆ คือ…

  1. พจที่เอามารวมกันได้ ควรเป็นเพจที่คล้ายกัน ซึ่งในทางการตลาด เมริก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง อย่างน้อยก็เรื่องใดเรื่องหนึ่งค่ะ เช่น กลุ่มเป้าหมายคล้ายกัน หรือ เป็นกลุ่มคนเดียวกัน สินค้าหรือแบรนด์ หรือบริการคล้ายๆ กัน แบบนี้เป็นต้น
  2. คนที่จะรวมเพจได้ ต้องเป็นแอดมินเพจค่ะ
  3. สิ่งที่จะนำมารวมคือ ยอดจำนวนคนไลค์ คนติดตาม และยอดเช็คอิน ส่วนโพสต์ต่างๆ ไม่ได้เอามารวมให้ค่ะ จะคงเหลือแค่โพสต์ในเพจหลักที่เราต้องการคงไว้เท่านั้น และไม่ได้ยอดรวมยอดไลค์ คอมเม้นท์ แชร์ ของโพสต์ให้ค่ะ
  4. สิ่งที่หลงเหลือคือ เพจหลัก เพจที่เอามารวมจะหายไป และจะเอากลับคืนมาไม่ได้ โดยเฟสบุคไม่ได้กำหนดว่าเพจที่คงไว้ จะต้องเพจที่มียอดไลค์มากกว่าหรือน้อยกว่านะคะ ข้อแนะนำ คือ… ควรเลือกเพจที่มีคอนเทนต์ดีๆ หรือ มี Engagement (มีส่วนร่วม) ดีๆ คงไว้ค่ะ
  5. ในเรื่องความโปร่งใสของเพจ (ในคลิปไม่ได้พูดไว้ แต่เสริมให้ค่ะ) ถ้าเพจรวมกันหลัง 16 ก.ย. 61 ข้อมูลการรวมเพจ การเปลี่ยนชื่อเพจ จะสามารถดูได้ จากตรงความโปร่งใสของเพจค่ะ

รายละเอียดทั้งหมดที่ว่ามานี้ ดูจากคลิปได้เลยนะคะ เพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพเพิ่มขึ้น

ก่อนรวมเพจ ต้องรู้เรื่องนี้

อยากขาย E-BOOk ต้องที่ไหนดี ขายในเพจได้มั๊ย

คลิปนี้แชร์จากประสบการณ์ตรงของพี่เมริ กับถามจากเจ้าหน้าที่เฟสบุคเลยค่ะ

ใครอยากรู้ว่า อยากขาย E-BOOk ต้องที่ไหนดี ขายในเพจได้มั๊ย ไปดูคลิปนี้ได้เลยค่ะ

ถ้ามีประโยชน์ กดห่วงใยหรือคอมเม้นท์มานะจ๊ะ ช่วยแชร์ต่อ

หรือ เอาไปใช้จะดีใจมากๆ ค่ะ (^V^)/

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่ FB: https://www.facebook.com/MarketingMayri

Website: https://www.marketingmayri.com/

Line: @mayri หรือกดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://lin.ee/X4Fs33w

#เมริ#การตลาดเข้าใจง่าย#EBOOK#การตลาดออนไลน์