1.พูดคุยกับว่าที่ลูกค้าเพียงคนเดียว
หากคุณพยายามดึงดูดทุกคน คุณจะไม่สนใจใครเป็นพิเศษ หรือ จะดึงดูดใครไม่ได้เลย เพราะคุณไม่ได้รู้ปัญหา ไม่ได้รู้ความต้องการของเขาอย่างแท้จริง
ธุรกิจใหญ่หลายแห่งปัจจุบันเริ่มต้นด้วยการช่วยเหลือคนกลุ่มเล็ก ๆ ก่อน พูดง่ายๆ คือ Hook หรือ พาดหัว รูปภาพหรือเนื้อเรื่อง คุณควรทำเสริ์ฟที่กลุ่มคน หรือ เจาะจงแต่ละชิ้น แต่ละเรื่อง ดีกว่าทำชิ้นเดียว แล้วหวังให้ทุกคนที่เป็นว่าที่ลูกค้าของคุณดู (สินค้า/บริการ ของเรา อาจจะตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม แต่เวลาสื่อในแต่ละคอนเทนต์ ไม่ควรใช้วิธีหว่านอันเดียวกับทุกคน)
2. ความแตกต่างต่างหาก คือ สิ่งที่ควรทำ
บ่อยครั้งเราไม่ได้ซื้อสินค้าจาก เจ้าที่ถูกที่สุด เราไม่ได้ซื้อจากสินค้าที่ดีที่สุด ไม่ได้เลือกเรียนกับคนที่เก่งที่สุดแต่เลือกกับคนที่สอนเราเข้าใจ แต่เราเลือกจากหลายๆ อย่าง คนอาจจะซื้อเพราะของ ซื้อเพราะคน ซื้อเพราะคน + ของ ซื้อเพราะบริการเสริมหรืออื่นๆ อีกมากมาย หาจุดยืน จุดแตกต่าง เพื่อสร้างการจดจำ และนึกถึงคุณให้เจอ เพราะว่าที่ลูกค้าไม่ได้สินใจซื้อจากสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ (เราไม่ได้ซื้อของด้วยเหตุผลว่า ดีที่สุด แต่อารมณ์มีส่วนในการตัดสินใจซื้อ)
3. ขายไม่เป็น ไม่ชอบการขาย แก้ด้วยการทำการตลาดให้ดี
เป้าหมายหรือปลายทางของการตลาด คือเพื่อให้การขายง่ายขึ้น ดังนั้นหากคุณมุ่งเน้นไปที่การตลาดที่ดี การขายลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าจะรู้สึกง่ายขึ้น ใช่ว่าคนขายของไม่เป็น จะสำเร็จไม่ได้ แต่ถ้าเป็นไปได้ คุณจะพัฒนาตัวเองทั้ง 2 ส่วนก็จะดียิ่งขึ้น
4. เราไม่จำเป็นต้องเริ่มจากฐานแฟนของเราทั้งหมด
ฐานแฟน หรือ รายชื่อลูกค้า นับเป็นสิ่งที่มีค่ามากๆ หลายบริษัท ยักษ์ใหญ่ ยอมขาดทุนก่อน เพื่อให้ได้ส่วนนี้ หลายบริษัท ยักษ์ใหญ่ ยอมขาดทุนก่อน เพื่อให้ได้ส่วนนี้คุณสามารถใช้วิธีหาฐานแฟนจากคนอื่นๆ ได้ มีทั้งฟรี และเสียเงิน เช่น การจ้าง Bloger ช่วยรีวิว ในส่วนนี้คือ เราใช้ฐานแฟนของ Bloger เป็นต้น
5. ถ้าคุณไม่อยากใช้เงินมาก คุณต้องคิดและใช้การสร้างสรรค์ให้มากขึ้น
หลายคนใช้ความคิดสร้างสรรค์ สร้างคลิป ทำคอนเทนต์ หาสไตล์การนำเสนอ ที่แตกต่าง แล้วก็เป็นที่รู้จัก หรือ โด่งดัง มีฐานแฟน สร้างรายได้อย่างรวดเร็ว (Tiktok เป็นตัวอย่างที่ดี แต่ช่องทางอื่นๆ ก็ใช้ได้เหมือนกัน) ดังนั้น ถ้าคุณคิดว่า เรางบน้อย หรือ เพิ่งเริ่ม แล้วอยากสำเร็จ ดังนั้น ถ้าคุณคิดว่า เรางบน้อย หรือ เพิ่งเริ่ม แล้วอยากสำเร็จ คุณก็ต้องใช้การคิด หรือ การสร้างสรร ให้มากกว่าคนที่ใช้เงินเท่ากัน หรือเพื่อสู้กับคนที่มีเงินเยอะกว่า
หลักการนี้ พี่เมริไม่ได้มโนเองนะคะ
ความรู้นี้ประยุกต์จากบทความของJesse Eker ลูกชายของ T.Harve Eker ผู้เขียนหนังสือ Secrets of the Millionaire Mind
จากประสบการณ์ของพี่เมริที่ตกผลึกมาจากตัวเองและเพื่อนๆค่ะ เอามาถ่ายทอดแบบให้เข้าใจง่ายๆและเห็นภาพเข้ากับเมืองไทยมากขึ้นค่ะ