5 ทางลัด เพิ่มความสำเร็จบนโลก Online
แม้คุณเพิ่งเริ่มต้น

1.พูดคุยกับว่าที่ลูกค้าเพียงคนเดียว

1.พูดคุยกับว่าที่ลูกค้าเพียงคนเดียว

หากคุณพยายามดึงดูดทุกคน คุณจะไม่สนใจใครเป็นพิเศษ หรือ จะดึงดูดใครไม่ได้เลย เพราะคุณไม่ได้รู้ปัญหา ไม่ได้รู้ความต้องการของเขาอย่างแท้จริง 

ธุรกิจใหญ่หลายแห่งปัจจุบันเริ่มต้นด้วยการช่วยเหลือคนกลุ่มเล็ก ๆ ก่อน พูดง่ายๆ คือ  Hook หรือ พาดหัว รูปภาพหรือเนื้อเรื่อง คุณควรทำเสริ์ฟที่กลุ่มคน หรือ เจาะจงแต่ละชิ้น แต่ละเรื่อง ดีกว่าทำชิ้นเดียว แล้วหวังให้ทุกคนที่เป็นว่าที่ลูกค้าของคุณดู (สินค้า/บริการ ของเรา อาจจะตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม แต่เวลาสื่อในแต่ละคอนเทนต์ ไม่ควรใช้วิธีหว่านอันเดียวกับทุกคน)

2. ความแตกต่างต่างหาก คือ สิ่งที่ควรทำ

ความแตกต่างต่างหาก คือ สิ่งที่ควรทำ

บ่อยครั้งเราไม่ได้ซื้อสินค้าจาก เจ้าที่ถูกที่สุด เราไม่ได้ซื้อจากสินค้าที่ดีที่สุด ไม่ได้เลือกเรียนกับคนที่เก่งที่สุดแต่เลือกกับคนที่สอนเราเข้าใจ แต่เราเลือกจากหลายๆ อย่าง คนอาจจะซื้อเพราะของ ซื้อเพราะคน ซื้อเพราะคน +  ของ ซื้อเพราะบริการเสริมหรืออื่นๆ อีกมากมาย หาจุดยืน จุดแตกต่าง เพื่อสร้างการจดจำ และนึกถึงคุณให้เจอ เพราะว่าที่ลูกค้าไม่ได้สินใจซื้อจากสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ (เราไม่ได้ซื้อของด้วยเหตุผลว่า ดีที่สุด แต่อารมณ์มีส่วนในการตัดสินใจซื้อ)

3. ขายไม่เป็น ไม่ชอบการขาย แก้ด้วยการทำการตลาดให้ดี

แต่ถ้าเป็นไปได้ คุณจะพัฒนาตัวเองทั้ง 2 ส่วนก็จะดียิ่งขึ้น

เป้าหมายหรือปลายทางของการตลาด คือเพื่อให้การขายง่ายขึ้น ดังนั้นหากคุณมุ่งเน้นไปที่การตลาดที่ดี การขายลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าจะรู้สึกง่ายขึ้น ใช่ว่าคนขายของไม่เป็น จะสำเร็จไม่ได้ แต่ถ้าเป็นไปได้ คุณจะพัฒนาตัวเองทั้ง 2 ส่วนก็จะดียิ่งขึ้น

4. เราไม่จำเป็นต้องเริ่มจากฐานแฟนของเราทั้งหมด

ฐานแฟน หรือ รายชื่อลูกค้า นับเป็นสิ่งที่มีค่ามากๆ หลายบริษัท ยักษ์ใหญ่ ยอมขาดทุนก่อน เพื่อให้ได้ส่วนนี้ หลายบริษัท ยักษ์ใหญ่ ยอมขาดทุนก่อน เพื่อให้ได้ส่วนนี้คุณสามารถใช้วิธีหาฐานแฟนจากคนอื่นๆ ได้ มีทั้งฟรี และเสียเงิน เช่น การจ้าง Bloger ช่วยรีวิว ในส่วนนี้คือ เราใช้ฐานแฟนของ Bloger เป็นต้น

5. ถ้าคุณไม่อยากใช้เงินมาก คุณต้องคิดและใช้การสร้างสรรค์ให้มากขึ้น

5. ถ้าคุณไม่อยากใช้เงินมาก คุณต้องคิดและใช้การสร้างสรรค์ให้มากขึ้น

หลายคนใช้ความคิดสร้างสรรค์ สร้างคลิป ทำคอนเทนต์ หาสไตล์การนำเสนอ ที่แตกต่าง แล้วก็เป็นที่รู้จัก หรือ โด่งดัง มีฐานแฟน สร้างรายได้อย่างรวดเร็ว (Tiktok เป็นตัวอย่างที่ดี แต่ช่องทางอื่นๆ ก็ใช้ได้เหมือนกัน) ดังนั้น ถ้าคุณคิดว่า เรางบน้อย หรือ เพิ่งเริ่ม แล้วอยากสำเร็จ ดังนั้น ถ้าคุณคิดว่า เรางบน้อย หรือ เพิ่งเริ่ม แล้วอยากสำเร็จ คุณก็ต้องใช้การคิด หรือ การสร้างสรร ให้มากกว่าคนที่ใช้เงินเท่ากัน หรือเพื่อสู้กับคนที่มีเงินเยอะกว่า 

หลักการนี้ พี่เมริไม่ได้มโนเองนะคะ

ความรู้นี้ประยุกต์จากบทความของJesse Eker ลูกชายของ  T.Harve Eker ผู้เขียนหนังสือ Secrets of the Millionaire Mind

จากประสบการณ์ของพี่เมริที่ตกผลึกมาจากตัวเองและเพื่อนๆค่ะ เอามาถ่ายทอดแบบให้เข้าใจง่ายๆและเห็นภาพเข้ากับเมืองไทยมากขึ้นค่ะ

 

นี่คือทางรอดของมือใหม่

มือใหม่หลายๆ คน หรือ คนที่ยังไม่ฐานแฟนไม่เยอะ
เพราะเพิ่งเปิดเพจมาใหม่ๆ
เพิ่งเริ่มขาย
หรือทำมาซักพักแล้วแต่ยังไม่เจอทางที่ใช่ซักที
นี่คือ ทางรอดค่ะ
…………………………………………………………………..

เมริเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีคำถามเกิดขึ้นในหัว
เพิ่งเริ่มต้นตอนนี้ หรือ เพิ่งเอาจริงเอาจังตอนนี้
กว่าจะตามคนอื่นที่ทำมานานแล้ว
ฐานแฟนเยอะแล้ว เราจะยังขายได้มั๊ย
ทำยังไงจะรอด
…………………………………………………………………..

สำหรับบางคนที่มีงบเยอะ ใช้การโฆษณาเพื่อช่วยให้เข้าถึง
กลุ่มคนจำนวนมาก ถึงแม้จะเป็นมือใหม่ แต่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล
อาจจะไม่ต้องกังวลในส่วนนี้ค่ะ
แต่ถ้าเราทำเอง หรือ งบประมาณยังไม่ได้เยอะมาก
พี่เมริมีข่าวดีมาบอกค่ะ
…………………………………………………………………..

Kevin Kelly บรรณาธิการก่อตั้งของนิตยสาร Wired
ได้เขียนบทความชื่อว่า 1,000 True Fans
เขาบอกว่า ถ้าคุณสามารถสร้างแฟนพันธุ์แท้ของคุณ
ให้ได้ซัก 1,000 คน นี่คือทางรอด
…………………………………………………………………..

ตัวอย่างกลมๆ นะคะ เพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น
สมมติคุณมีฐานแฟนพันธุ์แท้ 1,000 คน
คุณขายของได้กำไร 300 บาท
สมมติ 1 คน ซื้อ 1 ครั้ง
รายได้ของคุณ = 1,000×300 =300,000 บาท
เฉลี่ย 1 ปี =25,000 บาท/เดือน
พอๆ กับเงินเดือนของใครหลายๆ คนเลยก็ว่าได้
…………………………………………………………………..

และถ้าคนเหล่านี้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของคุณจริงๆ
เขายินดีที่จะสนับสนุนและซื้อของคุณ
สมมติ คุณมี สินค้า 2 รายการ
รายได้ของคุณ =1,000x300x2 =600,000 บาท
เฉลี่ย 1 ปี = 50,000 บาท/เดือน
โอ้วววว ตัวเลขมันช่างน่าสนใจ
…………………………………………………………………..

จะว่าไปการหาแฟนพันธุ์แท้ 1000 คน (Ture Fans)
จะมองว่าง่ายก็ง่าย จะมองว่ายากก็ยาก
คือ คนกลุ่มนี้ต้องไม่ใช่แค่ผ่านมาแล้วผ่านไป
แต่เขาต้องเป็นคนที่เรียกว่าอินกับคุณ หรือ อินกับสินค้าของคุณ
ลองนึกถึงตัวเราเวลาคลั่งไคล้อะไรซักอย่างซิคะ
แถบจะอุดหนุนตลอด
(คนรู้จักพี่เมริ คลั่งดาราเกาหลี กับ ลิซ่า แบล็คพิ้งค่ะ
อย่าให้เม้าท์ ว่าหมดไปเท่าไรบ้าง 5555)
…………………………………………………………………..

ทีนี้ข้อดีของการรู้อย่างนี้คือ
1. คุณเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ และคุณจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น

2. คุณเริ่มเห็นทางรอดใหม่ๆ เช่น ลดจำนวนคนลง
แต่เพิ่มคุณค่าให้กับสินค้า หรือบริการ หรือ ลดต้นทุน
เพื่อให้สามารถได้กำไร/ชิ้นมากขึ้น

3. หรือคุณจะเริ่มหาวิธีทำให้คนที่อยู่ในมือ
เปลี่ยนเป็นแฟนพันธุ์แท้ให้มากที่สุด
แทนที่จะไปหาคนเยอะแยะแต่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ เช่น
เปลี่ยนจากคน 10,000 คนที่ติดตาม
ให้เป็นแฟนพันธุ์แท้ซัก 1,000
เพราะคุณจะเล่าเรื่องให้คน 1,000 คน
ที่สนใจเรื่องเดียวกันหรือเรื่องคล้ายๆ กัน
ได้ง่ายกว่าเล่าเรื่องให้คน 100,000 หรือ 1,000,000 คน โดนใจ เป็นต้น
…………………………………………………………………..

ส่วนใครที่ได้กำไรเยอะกว่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องหาขนาดนี้ก็ได้นะคะ
หรือใครอยากตั้งเป้าใหญ่กว่านี้ก็จะเห็นแนวทางในการขยับตัว
…………………………………………………………………..

หลายคนอาจจะเถียงในใจ
แหมคูณเลขในกระดาษมันง่ายซิ แต่เวลาทำจริงๆ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
แต่เชื่อมั๊ยคะว่าจุดง่ายๆ แบบนี้แหละค่ะ
ที่จะทำให้คุณเห็นหนทาง กำหนดวิธีการ และเริ่มเดินทางตามความฝัน
ได้ง่าย และชัดเจนกว่าเดิม เพราะคุณรู้ปลายทางและจุดหมายที่ต้องการ
พี่เมริว่ามันเป็นทางรอดของมือใหม่ที่เอาจริง
หรือคนตัวไม่ใหญ่แต่สำเร็จได้ไม่แพ้มือโปรค่ะ
แล้วเรามาลุยหาแฟนพันธุ์แท้ 1000 ของเรา ไปด้วยกันนะคะ \(^-^)/
…………………………………………………………………..

ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/MarketingMayri/
ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ แชร์ หรือ กดไลค์ ให้ด้วยนะคะ
…………………………………………………………………..

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#เริ่มต้นแบบมือใหม่ขายได้แบบมือโปร
#TureFans
#ขายออนไลน์

เปิดเพจไว้แต่ไปต่อไม่เป็น
นี่ใช่คุณรึเปล่า

เปิดเพจไว้ แต่ไปต่อไม่เป็น ทำยังไงดี ?
ใครเป็นแบบนี้บ้างคะ
บางคนตอนเริ่ม ไฟลุก พร้อมลุย แล้วก็ลุย
“แต่ซักพักก็เลิกไป” หรือไม่ก็ปล่อยร้างไว้
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?
……………………………………………………………………….

เปิดเพจมันง่ายค่ะ กดเพียงไม่กี่คลิกก็มีเพจแล้ว
แต่ปัญหาของคนส่วนใหญ่ คือ….
เปิดเพจแล้วยังไงต่อ ? “ไปต่อไม่เป็น”
หลายคนรู้นะคะว่าเป้าหมายคือ “ขายของ”
หลายคนรู้นะคะว่าเป้าหมายคือ “สร้างรายได้”
ไม่ว่าจะเป็นรายได้หลัก หรือ รายได้เสริมก็ตาม
……………………………………………………………………….

นี่เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้พี่เมริตัดสินใจ
ทำ E-book กับเนื้อหา “เริ่มต้นแบบมือใหม่ขายได้แบบมือโปร”
เพราะพี่เมริเป็นคนนึงที่เคยอยู่ ณ จุด ๆ นั้นมาก่อน
พี่เมริจะเอาแก่นบางส่วนมาแบ่งปันผ่านบทความนี้
สาเหตุหลักๆ เพื่อเป็น Checklist ของตัวคุณเองคือ…
……………………………………………………………………….

1. คุณยังไม่รู้เลยว่ากลุ่มเป้าหมาย ว่าที่ลูกค้าของคุณ คือ ใคร ?
ถ้าคุณขายของให้ทุกคน คุณจะขายไม่ได้เลยซักคน
หรือ ขายได้แต่น้อยมาก
มันไม่ใช่แค่คุณบอกว่า “ขายให้ผู้หญิง อายุ 25-35 ปี ที่อยากหุ่นดี”
แล้วความต้องการของผู้หญิง 27 ปีที่โสด
กับ ผู้หญิง 27 ปีที่แต่งงานแล้ว
และผู้หญิง 27 ปีที่มีลูกแล้ว
แรงจูงใจที่อยากหุ่นดีของเขาเหล่านั้น คืออะไรคะ ?
อาจแตกต่างกันก็ได้ รูปแบบชีวิต สิ่งที่เขาสนใจ กิจกรรมชีวิตของเขาส่วนใหญ่เป็นแบบไหน
คุณว่า สื่อสารเรื่องราวไปหากลุ่มคนที่เป็น
“คนแก่” กับ “คนที่สนใจคนแก่” หรือ “ที่บ้านมีคนแก่” แตกต่างกันมั๊ยคะ ?
คุณควรตอบตัวเองหรือเคลียร์ตรงนี้ให้ชัดค่ะ
……………………………………………………………………….

2. ทำไมเขาต้องมาซื้อกับคุณ ทำไมเขาถึงต้องเลือกคุณล่ะ ?
สมมติว่าคุณตอบตัวเองข้อ. 1. เคลียร์แล้ว
คุณจะสามารถนำเสนอเนื้อหา ทำคลิป เขียนบทความ เอารูปที่ใช้ในเพจ
ในโพสต์ได้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายหรือว่าที่ลูกค้าได้ดีขึ้น กว่าคนที่ไม่ชัดในข้อ 1.

ทีนี้คำถามถัดไปคือ แล้วคุณมีอะไรที่แตกต่าง หรือต้องมาเลือกซื้อกับคุณล่ะ
โอเค ถ้าสินค้าชิ้นนั้น มันคือ คุณคนเดียวที่ขาย ที่อื่นๆ ไม่มี
แต่หลายคนที่เปิดเพจ หรือ ขายของออนไลน์ คือ
เป็นตัวแทน ขายสินค้าที่คล้ายๆ กับคนอื่น
หรือบางคนทำแบรนด์ของตนเอง แต่สินค้าประเภทเดียวกันของแบรนด์อื่นก็มี
คุณตอบตรงนี้ได้ชัดมั๊ยคะ ? ถ้าคุณบอกว่า “คุณราคาถูกที่สุด”
อันนี้คุณเสี่ยงมาก เพราะถ้าคุณเงินไม่หนา
ราคาจุดที่เลียนแบบและก็อบบี้ได้ง่ายมาก
แถมทำได้ดีกว่าได้แบบไม่กี่วินาทีเลยทีเดียว
โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์
คุณลองหาจุดเด่น หรือ ตอบตัวเองตรงนี้ให้ได้นะ ยิ่งได้เยอะยิ่งดี
แต่อย่างไม่ได้เลย พอมีซัก 1 ข้อ หรือซัก 3 ข้อมั๊ยคะ
ถ้าคุณเจอ คุณจะได้ย้ำในส่วนนั้น เพื่อให้เขาเลือกคุณ
นั่นแหละค่ะ แนวทางในการทำเพจของคุณอีกหนึ่งหนทาง

……………………………………………………………………….

3. คุณกำลังยึดติด กับอะไรบาง โดยยังไม่ได้มองในมุมลูกค้า
เช่น คุณฟันธงเลยว่า ฉันจะขายครีมลดริ้วรอยยี่ห้อนี่แหละ แบรนด์นี้แหละ
ฉันเลือกแล้ว ไม่รวย ไม่เลิก เพราะคนอื่นที่ขายเขารวยกัน
แต่คุณอาจจะไม่เคยหันมองในมุมอื่นๆ เลย เช่น
สินค้ามันดีกับลูกค้าจริงมั๊ย หรือมันดีแต่กับคุณ เพราะคุณได้กำไร/ชิ้นเยอะ
แต่สินค้านี้ไม่ได้ดีจริงๆ ไม่ได้ผล คุณรู้ เพราะคุณเคยลองใช้แล้ว
หรือคุณเองยังไม่รู้จักสินค้าเลย เพียงแต่เขาทำการตลาดมาว่า…
เปิดบิลวันนี้ ได้ทอง ได้นี่ นั่นนู้น แล้วคุณก็รีบกระโจนคว้าโอกาสนั้นไว้
หลังจากนั้น สต๊อกก็มากองที่บ้าน หรือไม่คุณก็รีบปล่อยของต่อ
ทำไงก็ได้ ผลักออกจากเราให้เร็วที่สุด
การทำแบบนี้คุณจะทำได้แค่รอบเดียว หรือสั้นมากๆ
หรือไม่คุณก็คิดว่า เป็นเพราะคุณยิง Ads ไม่เก่ง ค่า Ads แพง
แต่หารู้ไม่ มันอาจจะเป็นจากข้อ 1-3 เลยก็ได้
……………………………………………………………………….

เพราะคุณไม่รู้จะขายใคร
เพราะคุณไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องเลือกคุณ
เพราะคุณค่า สินค้า /บริการของคุณ มันแก้ปัญหาให้ใคร
……………………………………………………………………….

ความมุ่งมั่นเป็นเรื่องดีนะคะ แต่ถ้าคุณมีเพียงความมุ่งมั่น
แต่คุณไม่มีความรู้ หรือ ไม่พัฒนา ปรับต่อ
“คุณจะก็จะเป็นแบบเดิม”
คุณเลือกได้นะคะว่า
“คุณจะก็จะเป็นแบบเดิม”
หรือ คุณจะเพิ่มเติมพัฒนาตัวเองต่อ เพื่อให้ “คุณได้ก้าวไปอีก Step”

……………………………………………………………………….

ขอสรุปอีกครั้งนะคะ สำหรับคนที่ติดปัญหา
เปิดเพจไว้ แต่ไปต่อไม่เป็น ทำยังไงดี ?
คุณลอง Checklist ตัวเองดูว่าคุณขาดข้อไหน
หรือติดอะไร
เพราะคุณไม่รู้จะขายใคร
เพราะคุณไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องเลือกคุณ
เพราะคุณค่า สินค้า /บริการของคุณ มันแก้ปัญหาให้ใคร
……………………………………………………………………….

ลองปรับ 3 ข้อนี้ก่อนค่ะ คุณจะมีอะไรให้ทำต่ออีกเยอะเลยค่ะ
……………………………………………………………………….

#พี่เมริ
#การตลาดเข้าใจง่าย
#เปิดเพจ
#เร่ิมต้นแบบมือใหม่ขายได้แบบมือโปร
#เปิดเพจไว้แต่ไปต่อไม่เป็น
#ขายของOnline