10 ข้อแตกต่าง ของ facebook แต่ละแบบ.………………………………………………….. ใครที่เคยสงสัยว่า…ทำไมบางอันทำได้บางอันทำไม่ได้เฟสบุคส่วนตัว : Facebook Profileเฟสบุคกลุ่ม : Facebook Groupเฟสบุคแฟนเพจ : Facebook Fanpage เข้าใจได้ใน 1 นาทีค่ะ …………………………………………………… ติดตามพี่เมริเพิ่มเติมได้ที่ : www.marketingmayri.com……………………………………………………….. #พี่เมริ#การตลาดเข้าใจง่าย#มือใหม่หัดทำเพจ#OnlineMarketing#ข้อแตกต่างเฟสบุคแต่ละแบบ
ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อเพจแบบไหน ถึงจะดี ถึงจะโดน
ไม่ได้เปิดเพจซักที เพราะคิดชื่อเพจดีๆ ไม่ออก
เพจสะเปะสะปะ ไร้ทิศทางมากเลย
ใครที่ติดปัญหาแบบที่ว่ามานี้ ลองไปฟัง Podcast มือใหม่ ตั้งชื่อยังเพจยังไงดี ได้เลยค่ะ
“คุณเขียนพาดหัวยังไง คุณก็ได้ลูกค้าอย่างนั้น”
แคปชั่น พาดหัว หรือ รูปที่เอามาใช้ หน้าปกวีดีโอ
ก็มีส่วนในการคัดกรองกลุ่มว่าที่ลูกค้า หรือ กลุ่มคนที่เราตามหาค่ะ
ทำไมพี่เมริถึงพูดอย่างนั้น
ลองจินตนาการตามพี่เมรินะคะ
คุณว่า คนหน้าใสจะหยุดดูพาดหัวประเภทที่ว่า
“เปลี่ยนหน้าสิวให้สวยด้วย……”
หรืออีกซักตัวอย่าง
“จุดเสียดแน่นท้องทุกที อย่างนี้เป็นกรดไหลย้อนรึเปล่า”
คุณคิดว่า คนที่มีอาการดังกล่าว
หรือมีญาติๆที่เป็นอาการจุกเสียดแน่นท้อง
จะมีโอกาสหยุดอ่านข้อความเหล่านี้มั๊ยคะ?
……………………………………………………………………………….
ถ้าคุณรู้ปัญหาของว่าที่ลูกค้า หรือ เจอกลุ่มคนที่ใช่
และบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาเหล่านั้นคือใคร
ติดขัด หรือ ต้องการอะไรอยู่ คุณจะสามารถ
ทำ พาดหัว เขียนแคปชั่น เลือกรูปได้ตรงจุดมากขึ้นค่ะ
สินค้าอย่างเดียวกัน บริการอย่างเดียวกัน
มีความเป็นไปได้ค่ะ ที่เราอาจจะจับลูกค้ามากกว่า 1 กลุ่ม
และก็เป็นไปได้อีกเหมือนกันค่ะ
ที่สินค้าแบบเดียวกัน แต่เราจับลูกค้าที่แตกต่าง
หรือนำเสนอจุดเด่น จุดแตกต่างจากเจ้าอื่นในท้องตลาด
……………………………………………………………………………….
“อยากได้ลูกค้าแบบไหน ให้เขียนพาดหัวอย่างนั้น”
“คุณเขียนพาดหัวยังไง คุณก็ได้ลูกค้าอย่างนั้น”
คุณอยากได้ลูกค้า VIP ที่มีกำลังเงินจ่ายสบายๆ
พาดหัว Tittle หรือ คำที่ใช้ รูปที่ใช้
มันก็ไม่จำเป็นต้องมีคำว่า “ถูก”หรือ “คุ้ม”
แต่มันควรจะเป็นอะไรที่ดูแล้ว เน้นภาพลักษณ์
บริการที่เหนือกว่า สื่อถึงความบริการที่ดีกว่า
จริงมั๊ยคะ
(แม้ว่าคุณอาจจะมีโปรโมชั่นตบท้ายนิดหน่อยแต่มันก็ไม่ใช่หลักใหญ่ที่คุณจะสื่อให้เขาหยุดอ่าน)
แต่ถ้าคุณอยากได้ตลาดอีกกลุ่ม หรือ ตีประเด็นเรื่องราคา
คุณอาจจะต้องเลือกใช้คำประเภทที่ว่า “ถูกเว่อร์”
“คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” “ราคาหลักร้อย” เป็นต้น
……………………………………………………………………………….
ถ้าเรารู้จัก นึกหน้า ระบุได้ชัด
ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร
ถ้าเรารู้จักสินค้าและบริการของเราดีพอ
คุณจะสามารถเลือกแคปชั่น พาดหัว หรือ รูปที่เอามาใช้ หน้าปกวีดีโอ
ได้ดี และตรงมากขึ้นค่ะ
ถึงแม้เราจะเป็นมือใหม่ คำมันอาจจะไม่ได้ดูคมคายมากมาย
แต่อยากน้อย มันก็ดีกว่า การเขียนพาดหัว แบบไม่นึกถึงหน้าใครเลย
เพราะถ้าคุณสื่อสารถึงทุกคน คุณแทบจะนึกหน้าทุกคนไม่ออกเลยค่ะ
แต่ถ้าคุณนึกหน้า “ว่าที่ลูกค้า” ออกว่า
อ๋อ สินค้าฉันมันตอบโจทย์ น้องนักศึกษามหาวิทยาลัย
ผู้ชาย ท่ีดูเท่ห์หน่อย กระเป๋าสะพายที่เขาอยากได้
มันอาจจะไม่ต้องหรูมาก แต่ต้องมีสไตล์นิดนึง
มันก็จะง่ายขึ้นกว่า คุณว่ามั๊ยคะ
……………………………………………………………………………….
ครั้งถัดไป คุณลองนึกถึงหน้าว่าที่ลูกค้าของคุณให้ออก
ก่อนเขียนบทความ ก่อนเขียนโพสต์ขาย ก่อนทำคอนเทนต์ดูนะคะ
แล้วคุณก็จะรู้ว่า มันง่ายขึ้นกว่าเดิม
……………………………………………………………………………….
ไม่เก่งเทคโนโลยีแต่อยากทำออนไลน์
อยากทำการตลาดออนไลน์ แต่ไม่รู้จะทำได้มั๊ย
ไม่มีความรู้ด้านการทำออนไลน์ จะเริ่มต้นยังไงดี
ใครที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว เจอช่วงวิกฤติ Covid-19 ที่ผ่านมา ก็อยากมาทำออนไลน์เพิ่ม แต่ไม่เก่งเทคโนโลยี หรือ ไม่รู้ว่าจะเอามาช่วยแบบไหน ลองฟัง Podcast EPนี้ดูค่ะ
ทำยังไงให้ขายของได้
วิธีที่จะช่วยให้คุณขายของได้ง่ายขึ้น มีหลักการที่เรียบง่ายแบบนี้ค่ะ
ถ้ากลุ่มลูกค้าชัด คุณแค่….
หาสินค้า/ บริการ มาเสิร์ฟเพิ่ม
มันก็จะทำเงิน และต่อยอดได้ง่าย
แต่คนส่วนใหญ่กลับทำตรงข้าม
V
V
V
ทำเพจอะไรดี
เอาอะไรมาขายดี
ทำคอร์สเรียนอะไรดี
ให้ความรู้ ให้คุณค่าอะไรดี
ทำเงินจากโลกออนไลน์ ยังไงดี
………………………………………………………………….
คุณจะรู้ว่าอะไรดี แบบไหนดี แบบง่ายขึ้น
ถ้าคุณเริ่มจากคำถามว่า “ใครดี”
………………………………………………………………….
พี่เมริรู้ค่ะ ว่ามันขัดกับความรู้สึก มันดูขัดกับสิ่งเดิมๆ ที่เคยทำมา
แต่…ตอนนี้มันไม่ใช่ยุคอุตสกรรม!!!
ที่ผลิตๆๆๆๆ แล้วก็มีคนรอแห่ซื้อ
นึกออกมั๊ยคะ ?
………………………………………………………………….
คุณคงเคยได้ยินคำพูดนี้มาบ้าง
“ต้นทุนในการรักษาฐานลูกค้าเก่า ต่ำกว่าการหาลูกค้าใหม่”
“ลูกค้าเก่า คือ คนที่เคยเชื่อใจคุณมาแล้ว”
นี่คือเรื่องจริงค่ะ
ถ้าคุณมีฐานแฟน มีกลุ่มคนที่รัก และศรัทธา
โอกาสที่คุณจะเอาอะไรมาเสิร์ฟ
(แต่พี่เมริขอให้มันเป็นของดีนะคะ)
ย่อมมีโอกาสที่จะขายได้ ง่ายขึ้น
ลองสังเกตตัวคุณเองก็ได้นะคะ
ว่าคุณมีใคร มีร้านไหน มีแบรนด์อะไร ที่คุณเป็นสาวก
หรือซื้อเป็นประจำบ้างมั๊ย
………………………………………………………………….
สินค้าก็อปปี้ และเลียนแบบกันได้ง่ายมากขึ้นค่ะ
หรือยิ่งเป็นสินค้าทั่วๆไป
หาที่ไหนก็ได้ เซริ์ทแป๊บเดียวก็เจอ
สั่งออนไลน์ก็พร้อมมาส่ง
………………………………………………………………….
แต่…ฐานแฟน กับ กลุ่มคนที่ใช่
ที่รัก และ ศรัทธา เชื่อในคุณ
มันเหนียวแน่นกว่า…
(แม้ว่าเขาจะมีปันใจไปซื้อที่อื่น หรือ ลืมคุณบ้างในบางเวลา)
………………………………………………………………….
ก่อนที่จะเริ่มว่าหาอะไรมาขายดี ทำเพจอะไรดี
พี่เมริ อยากให้คุณลองมองในมุมใหม่
ถ้าฉันจะมีฐานแฟน ซักกลุ่มนึง ที่รักฉัน หรือ เชื่อฉัน
คนเหล่านั้นเขาเป็นใคร?
หรือไม่ก็ ลองถามคำถามในลักษณะที่ว่า
ถ้าฉันจะช่วยเหลือใครซักคน ด้วยความรู้ ความสามารถ
หรือของดีที่ฉันมี เขาเหล่านั้นคือใครกันนะ?
ถ้าหน้าของ “ว่าที่ลูกค้า” หน้าของ “ฐานแฟน”
หน้า “ว่าที่สาวก” ของคุณแจ่มชัด
คุณจะเห็นเลยว่า…อ๋อ กลุ่มคนเหล่านี้เขามีปัญหาอะไร
ฉันจะเอาอะไรมาขายได้บ้าง ฉันหาให้ความรู้ ให้คุณค่าอะไรดี
ฉันจะเขียนบทความ ทำคอนเทนต์ ทำคลิปยังไงดี
แล้วหลังจากนั้น สิ่งที่คุณติดเคยติดขัดทั้งหลาย มันก็จะชัดขึ้นตามมา
………………………………………………………………….
ลองเริ่มจาก Start with who ดูนะคะ
เริ่มต้น Who ของคุณซักกลุ่มเดียวก่อนก็ได้ค่ะ
แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณช่วยผู้คนได้มาก
Who ของคุณมันอาจจะมากกว่า 1 กลุ่มก็ย่อมได้
Who ที่พี่เมริบอก
มันอาจจะหมายรวมถึงเรื่องที่เขาสนใจ หรือ เรื่องที่เขามีปัญหาก็ได้
เช่น ฉันจะช่วยแก้ปัญหาคนที่นอนไม่หลับนี่แหละ
ฉันจะช่วยคนที่สนใจเรื่องธรรมะ
แล้วคุณค่อยไปตีกรอบเรื่องอายุ ทีหลังก็ยังได้
#เพราะลูกค้ามีมูลค่ากว่าที่เราคิด
………………………………………………………………….
วันนี้เขาอาจจะยังไม่ใช่ลูกค้า นั่นแหละค่ะหน้าที่ของเขา
เพราะถึงคุณจะเริ่มต้นด้วยการหาสินค้ามาขาย
ช่วงแรก คุณก็ต้องหาลูกค้าอยู่ดี
แล้วทำไมคุณไม่เริ่มจากหากลุ่มลูกค้าก่อนล่ะ ?
………………………………………………………………….
ถ้าคุณทำได้แบบนี้ โอกาสที่คุณจะทำเงินได้ก็จะง่ายขึ้นค่ะ
………………………………………………………………….